Page 99 - kpiebook63010
P. 99
98 การศึกษาความเคลื่อนไหวทางการเมืองและพฤติกรรมการเลือกตั้ง
สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร 2562 กรุงเทพมหานคร
เห็นว่าการใช้สิทธิเลือกตั้งเป็นหน้าที่สำาคัญของประชาชน แต่มีความรู้สึกขาดความศรัทธา และไม่แน่ใจว่า
รัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งจะมีประสิทธิภาพในการบริหารประเทศ 4) ประชาชนส่วนใหญ่มีทัศนคติไม่ดี
และขาดความเชื่อถือศรัทธาในบทบาทและพฤติกรรมของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร
ส่วนระบบการบริหารงานเลือกตั้งของเขตบางขุนเทียนยังมีสิ่งที่ควรแก้ไขปรับปรุงบางประการ เช่น
การประชาสัมพันธ์ การกำาหนดหน่วยเลือกตั้ง การจัดทำาบัญชีรายชื่อผู้เลือกตั้ง และการจัดทำาบัตรประจำาตัวประชาชน
ในประเด็นความสัมพันธ์ระหว่างตัวแปรอิสระ คือ เพศ อายุ ระดับการศึกษา รายได้ และอาชีพ
ต่อตัวแปรตาม คือ ความรู้ความเข้าใจของประชาชนต่อระบบการเมืองการปกครองแบบประชาธิปไตย ทัศนคติ
ต่อการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ทัศนคติต่อบทบาทและพฤติกรรมของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร
และทัศนคติต่อการเมืองการปกครองแบบประชาธิปไตย พบว่า ความรู้ความเข้าใจในระบบการเมืองการปกครอง
แบบประชาธิปไตยนั้น ผู้ที่มีเพศต่างกันไม่ได้มีความแตกต่างอย่างมีนัยสำาคัญทางสถิติต่อความรู้ความเข้าใจ
ในเรื่องนี้ ระดับอายุของประชาชนเองก็ไม่ได้มีความแตกต่างอย่างมีนัยสำาคัญทางสถิติต่อความรู้ความเข้าใจเช่นกัน
อย่างไรก็ดี มีความแตกต่างอย่างมีนัยสำาคัญทางสถิติระหว่างระดับการศึกษาของประชาชนต่อความรู้ความเข้าใจ
ในระบบการเมืองการปกครองแบบประชาธิปไตย ระดับรายได้ของประชาชนและอาชีพของประชาชนก็มีอิทธิพล
ต่อความรู้ความเข้าใจในเรื่องนี้ด้วย คืออาชีพราชการหรือรัฐวิสาหกิจจะมีความรู้ความเข้าใจสูงกว่าอาชีพอื่น
ส่วนเรื่องทัศนคติต่อการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ทัศนคติต่อบทบาทและพฤติกรรมของสมาชิก
สภาผู้แทนราษฎร และทัศนคติต่อการเมืองการปกครองแบบประชาธิปไตย พบว่าตัวแปรเพศ ระดับอายุ ระดับ
การศึกษา ระดับรายได้ และอาชีพไม่มีอิทธิพลต่อทัศนคติในเรื่องดังกล่าว
การเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร 14 พฤศจิกายน พ.ศ. 2528
แม้ว่าการเลือกตั้งในครั้งนี้จะไม่ใช่การเลือกตั้งทั่วไป แต่นี่คือการเลือกตั้งครั้งแรกของผู้บริหารท้องถิ่น
ของกรุงเทพมหานคร ตาม พรบ. ระเบียบบริหารราชการกรุงเทพมหานคร พ.ศ. 2528 ซึ่งในสมัยนั้นถือเป็น
หน่วยการปกครองรูปแบบพิเศษที่เดียวในประเทศไทยที่ผู้บริหารมาจากการเลือกตั้งโดยตรงของประชาชน
และยังเป็นการเลือกตั้งที่ประชาชนทั้งกรุงเทพฯที่มีจำานวนมากที่สุดและเป็นเมืองหลวงของประเทศได้มีโอกาส
เลือกคนคนเดียว ขณะที่การเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรนั้น ยังเป็นการแบ่งเขตเลือกตั้งออกไปหลายเขต
จุฑาทิพย์ สุขรังสรรค์ (2529) ศึกษาเรื่อง “พฤติกรรมการลงคะแนนเสียงเลือกตั้งผู้ว่าราชการ
กรุงเทพมหานคร” ดูความสัมพันธ์ระหว่างตัวแปรอิสระ คือ ปัจจัยฐานะทางเศรษฐกิจและสังคม อันได้แก่ เพศ
อายุ การศึกษา อาชีพ และรายได้ กับตัวแปรตาม คือ พฤติกรรมในการลงคะแนนเสียงเลือกตั้งผู้ว่าราชการ
กรุงเทพมหานคร ผลการศึกษาพบว่า ผู้ที่มีฐานะทางเศรษฐกิจและสังคมปานกลางขึ้นไป มีการศึกษาสูง อายุ
อยู่ในช่วงวัยหนุ่มสาว (20-30 ปี) จนถึงวัยกลางคน (31-40 ปี) มีแนวโน้มไปลงคะแนนโดยสำานึกของตัวเอง
มากกว่าการถูกระดม แต่การตัดสินใจเลือกผู้สมัครกลับตัดสินใจได้ล่าช้าและมีความแน่นอนน้อยกว่าผู้ที่มีวัย