Page 533 - kpiebook63010
P. 533

532      การศึกษาความเคลื่อนไหวทางการเมืองและพฤติกรรมการเลือกตั้ง
                    สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร 2562 กรุงเทพมหานคร







             การเลือกตั้งประกาศใช้ก่อน รวมถึงต้องรอประกาศจากคณะกรรมการการเลือกตั้ง ประจ�ากรุงเทพมหานคร

             ซึ่งเป็นประกาศการก�าหนดสถานที่ติดเเผ่นป้าย โดยประกาศนี้ได้ออกมาเมื่อวันที่ 31 มกราคม พ.ศ.2562 ดังนั้น
             พรรคการเมืองที่ติดป้ายหาเสียงไปก่อนหน้านั้นต้องรื้อถอน พรรคการเมืองหลายพรรคได้ติดป้ายหาเสียงไปแล้ว

             เช่น ป้ายหาเสียงของหมวดเจี๊ยบ ร.ท.หญิง สุนิสา ทิวากรด�ารง พรรคเพื่อไทย (เขต 8 ลาดพร้าว วังทองหลาง
             (ยกเว้นแขวงพลับพลา)) ป้ายหาเสียงของนายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี พรรคประชาธิปัตย์ (เขต 6 พญาไท ราชเทวี

             จตุจักร (เฉพาะแขวงจตุจักรและแขวงจอมพล)) เป็นต้น ส่วนป้ายหาเสียงของนายสิระ เจนจาคะ พรรคพลังประชารัฐ
             (เขต 9 หลักสี่ จตุจักร (ยกเว้นแขวงจตุจักรและแขวงจอมพล) ได้ติดตั้งอยู่ในถนนแจ้งวัฒนะเขตหลักสี่ ไม่โดนรื้อ

             โดยทางผู้ว่าผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) ให้เหตุผลว่า การติดป้ายของนายศิระเป็นการติดในบริเวณ
             พื้นที่บ้านอาศัยหรือเอกชนไม่ใช่พื้นที่สาธารณะ กทม.ไม่มีอ�านาจในการด�าเนินการ (เดลินิวส์, 2562ญ)


                      จากการสัมภาษณ์ผู้สมัครพบว่าทีมงานผู้สมัครแต่ละทีมจะพอมีความเข้าใจอยู่ว่าจะติดป้ายในพื้นที่

             ไหนบ้าง ความขัดแย้งในพื้นที่เรื่องการติดป้ายจึงไม่มี

                      ขบวนหาเสียง ขบวนหาเสียงมีด้วยกันสองชนิด คือขบวนเดินเท้า และ รถแห่ แต่เรื่องส�าคัญของ

             ขบวนหาเสียงนอกจากจะเป็นส่วนหนึ่งของการหาเสียงผ่านการแจกสื่อ (แผ่นพับแผ่นพก) แล้วตัวขบวนหาเสียง

             เองก็ยังนับเป็นสื่อด้วย


                      การเข้าใจขบวนหาเสียงจะต้องเข้าใจโครงสร้างของระบบการรณรงค์หาเสียงของผู้สมัครแต่ละท่าน
             ตามกฎหมายระบุว่าผู้สมัครจะมีทีมงานหาเสียงได้ไม่เกิน 20 คน โดยต�าแหน่งผู้ช่วยหาเสียงนั้นจะต้องมีการ
             แจ้งชื่อไปยัง กกต. ก่อนที่จะลงพื้นที่ได้


                      ผู้ช่วยหาเสียงจะมีบทบาทส�าคัญในขบวนเดินเท้าและรถแห่ ผู้สมัครบางคนจะวางผู้ช่วยหาเสียงไว้

             ที่ท้ายขบวนโดยไม่ใส่ชุดหาเสียง เพื่อคอยฟังเสียงสะท้อนและปฏิกิริยาของประชาชน


                      รูปแบบที่ส�าคัญอีกประการหนึ่งของขบวนการหาเสียงใหม่ คือ การปรากฏตัวแบบไม่มีการแจ้งล่วงหน้า
             ในพื้นที่ชุมชนของผู้น�าพรรคที่เป็นที่สนใจของประชาชน เช่น การปรากฏตัวของนายธนาธร หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่

             ที่พื้นที่สยามสแควร์ ซึ่งอาจจะไม่ได้มีผลแค่การช่วยหาเสียงกับผู้สมัครในเขต 2 (ปทุมวัน บางรัก สาทร) แต่มีผล
             ต่อวัยรุ่นและคนรุ่นใหม่ซึ่งอาจจะไม่ได้มีสิทธิเลือกตั้งในเขตนี้ แต่การปรากฏตัวอาจส่งผลต่อความนิยมของพรรค

             ในระดับกรุงเทพมหานคร และ ประเทศเมื่อปรากฏออกสื่อ


                      รถแห่นั้น มีสองแบบ แบบแรกคือ รถแห่ที่เป็นรถที่มีป้ายโฆษณา และการกระจายเสียง แต่ไม่มี
             ตัวผู้สมัครเดินทางไปด้วย กับแบบที่สองคือ รถแห่ที่มีผู้สมัครเดินทางไปหาเสียงด้วย รถแห่ต่างจาก

             ขบวนเดินเท้าเพราะเป็นของพรรคต้องมีการเวียนกันใช้ และในกรุงเทพในหลายพื้นที่ไม่ค่อยเป็นที่ตอบรับ
             เพราะรถติดเสียงดัง และการเข้าไปหาเสียงในรณรงค์หาเสียงในชุมชนบ้านมีรั้วนั้นต้องขออนุญาต และอาจรบกวน

             การพักผ่อนในวันหยุดของผู้พักอาศัย
   528   529   530   531   532   533   534   535   536   537   538