Page 107 - kpiebook63010
P. 107
106 การศึกษาความเคลื่อนไหวทางการเมืองและพฤติกรรมการเลือกตั้ง
สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร 2562 กรุงเทพมหานคร
3) ศึกษาบทบาทและการทำางานของคณะกรรมการการเลือกตั้ง รวมถึงปัญหา อุปสรรค และการแก้ไขปัญหา
ที่เกิดขึ้นจากการบริหารจัดการการออกเสียงประชามติ และการจัดการเลือกตั้ง ส.ส. 4) ศึกษาความเคลื่อนไหว
และพฤติกรรมทางการเมืองของผู้สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส. 5) ศึกษาบทบาทของหน่วยงานของรัฐ ภาคเอกชน
องค์กรสาธารณะ และองค์กรอื่น ๆ ที่เข้ามามีบทบาทเกี่ยวข้องกับการออกเสียงประชามติ และการเลือกตั้ง ส.ส.
6) ศึกษาแบบแผนพฤติกรรมทางการเมืองของประชาชนโดยเฉพาะที่เกี่ยวข้องกับการออกเสียงประชามติและ
การเลือกตั้ง ส.ส. และ 7) นำาเสนอแนวทางการพัฒนาปรับปรุงกระบวนการออกเสียงประชามติ และการเลือก
ตั้ง ส.ส. ให้เป็นกระบวนการที่ส่งเสริมระบอบประชาธิปไตยของประเทศให้มีความเข้มแข็งและยั่งยืน
การศึกษาพบว่า ในส่วนการออกเสียงประชามติ มีทั้งส่วนของกระบวนได้มาซึ่งสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ
100 คน และการแต่งตั้งคณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ 35 คน เพื่อทำาหน้าที่ศึกษาและยกร่างรัฐธรรมนูญ
เพื่อนำาไปสู่การลงประชามติ และมีความเคลื่อนไหวของภาคส่วนต่าง ๆ ต่อการออกเสียงประชามติด้วยได้แก่
ความเคลื่อนไหวของคณะกรรมการการเลือกตั้ง คณะกรรมการการเลือกตั้งระดับจังหวัด พรรคการเมืองซึ่งแสดง
ความเห็นในประเด็นสำาคัญ มีการแสดงความเห็นจากหลายองค์กรและการจัดกิจกรรมต่าง ๆ ทั้งจาก
ภาครัฐและเอกชน โดยผู้มาลงประชามติในพื้นที่กรุงเทพมหานครมี 2,222,775 คน คิดเป็นร้อยละ 53.44 โดยเห็นชอบ
ร้อยละ 65.80 และไม่เห็นชอบร้อยละ 34.20 ทั้งนี้ เขตทวีวัฒนามีผู้มาใช้สิทธิมากที่สุด ขณะที่เขตคลองเตย
มีผู้มาใช้สิทธิลงคะแนนน้อยที่สุด
การเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรในพื้นที่กรุงเทพมหานคร แบ่งเขตเลือกตั้งเป็น 12 เขต โดยมี
ส.ส. ได้ทั้งสิ้น 36 คน ขณะที่การเลือกตั้งในระบบสัดส่วนนั้นจะอยู่ในกลุ่มที่ 6 ที่ประกอบด้วย 3 จังหวัด
คือ กรุงเทพมหานคร นนทบุรี และสมุทรปราการ
ในการตรวจสอบการเลือกตั้งนั้นมีองค์กรที่เข้ามาร่วมทำาหน้าที่ 5 องค์กร ได้แก่ มูลนิธิธรรมศาสตร์
ในพระบรมราชูปถัมภ์ ชมรมส่งเสริมการมีส่วนร่วมของประชาชน เครือข่ายการมีส่วนร่วมทางการเมือง
ภาคประชาชน กลุ่มออมทรัพย์บางซื่อพัฒนา และองค์กรเครือข่ายการเลือกตั้งภาคพลเมือง ปัญหาที่พบคือ
การแจ้งประสานการทำางานขององค์กรตรวจสอบการเลือกตั้งล่าช้า การจัดหน่วยเลือกตั้ง และการขานบัตร
ที่ไม่เป็นมาตรฐานเดียวกัน เป็นต้น
ผู้สมัครรับเลือกตั้งมี 357 คน ส่วนใหญ่เป็นเพศชายคิดเป็นร้อยละ 85.7 กลุ่มที่มีจำานวนมากที่สุด
สำาเร็จการศึกษาในระดับปริญญาโท คิดเป็นร้อยละ 34.1 มีอายุระหว่าง 41-50 ปี คิดเป็นร้อยละ 35.1 การเลือกตั้ง
ระบบเขตมีพรรคการเมืองที่ส่งผู้สมัคร 17 พรรค โดยมีพรรคที่ได้รับเลือกตั้ง 2 พรรค คือ พรรคประชาธิปัตย์
26 คน และพรรคพลังประชาชน 10 คน ส่วนการเลือกตั้งแบบสัดส่วน พรรคประชาธิปัตย์ได้ 5 คน
พรรคพลังประชาชน 4 คน และพรรคเพื่อแผ่นดิน 1 คน
ข้อเสนอแนะคือ คณะกรรมการการเลือกตั้ง หน่วยงานภาครัฐ ควรสนับสนุนส่งเสริมให้มีการจัดทำา
ประชามติในประเด็นสำาคัญ ๆ ที่ส่งผลกระทบต่อส่วนรวมทั้งในระดับชาติและระดับท้องถิ่น ขณะเดียวกัน
ก็สนับสนุนให้ภาคประชาชนได้เข้ามามีบทบาททางการเมืองมากขึ้น