Page 31 - kpiebook62011
P. 31
27
อุทธรณ์) และศาลยุติธรรม เป็นการเปิดโอกาสให้มีการกลั่นกรองในเรื่องของการกำหนดเงินค่าทดแทนตาม
ลำดับถึง 3 ขั้น ดังนั้น หากจะมีข้อบกพร่องในการกำหนดเงินค่าทดแทนที่เกิดจากการกระทำโดยองค์กรระดับ
ล่าง องค์กรระดับบนก็จะมีโอกาสตรวจสอบและสั่งแก้ไขได้
(1) คณะกรรมการ (ในการกำหนดราคาเบื้องต้น)
เมื่อเจ้าหน้าที่ได้ดำเนินการสำรวจที่ที่จะต้องเวนคืน (ในกรณีที่มีการตราพระราชกฤษฎีกากำหนดเขต
ที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืน) เสร็จเป็นบางส่วนหรือทั้งหมดแล้ว กฎหมายกำหนดให้เจ้าหน้าที่เสนอ
รัฐมนตรีผู้รักษาการตามพระราชกฤษฎีกาแต่งตั้งคณะกรรมการขึ้นคณะหนึ่งภายในสามสิบวันนับแต่
วันที่สำรวจแล้วเสร็จ ประกอบด้วยผู้แทนของเจ้าหน้าที่หนึ่งคน ผู้แทนกรมที่ดินหนึ่งคน ผู้แทนของ
หน่วยงานอื่นของรัฐหนึ่งคน และผู้แทนของสภาท้องถิ่นที่เกี่ยวข้อง และในกรณีพระราชกฤษฎีกา
ผ่านเขตท้องที่ใดก็ให้มีผู้แทนของสภาท้องถิ่นนั้นแห่งละหนึ่งคนเข้าร่วมเป็นกรรมการด้วย เพื่อทำ
หน้าที่กำหนดราคาเบื้องต้นของอสังหาริมทรัพย์ที่จะต้องเวนคืนและจำนวนเงินค่าทดแทนที่จะให้แก่
บุคคลตามมาตรา 18 (มาตรา 9) ส่วนในกรณีที่มีการใช้บังคับพระราชบัญญัติเวนคืนอสังหาริมทรัพย์
โดยมิได้มีการออกพระราชกฤษฎีกา และพระราชบัญญัติเวนคืนอสังหาริมทรัพย์นั้นมิได้กำหนดเรื่อง
เงินค่าทดแทนไว้เป็นอย่างอื่น ให้รัฐมนตรีผู้รักษาการตามพระราชบัญญัติเวนคืนอสังหาริมทรัพย์นั้น
แต่งตั้งคณะกรรมการขึ้นคณะหนึ่งภายใน สามสิบวันนับแต่วันใช้บังคับพระราชบัญญัติดังกล่าว
ประกอบด้วยผู้แทนของเจ้าหน้าที่หนึ่งคน ผู้แทนกรมที่ดินหนึ่งคน ผู้แทนของหน่วยงานอื่นของรัฐ
หนึ่งคนและผู้แทนของสภาท้องถิ่นที่เกี่ยวข้องเพื่อทำหน้าที่กำหนดราคาของอสังหาริมทรัพย์ที่จะต้อง
เวนคืนและจำนวนเงินค่าทดแทนที่จะให้แก่บุคคลตามมาตรา 18 (มาตรา 23) คณะกรรมการชุด
ดังกล่าวมีหน้าที่กำหนดราคาเบื้องต้นของอสังหาริมทรัพย์ที่จะต้องเวนคืนและจำนวนเงินค่าทดแทน
โดยต้องดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในหนึ่งร้อยยี่สิบวัน คณะกรรมการจะขอให้รัฐมนตรีขยายเวลา
ออกไปอีกก็ได้ แต่ต้องไม่เกินหนึ่งร้อยยี่สิบวัน ซึ่งจะเห็นได้ว่าในองค์ประกอบของคณะกรรมการชุดนี้
กฎหมายมิได้กำหนดคุณสมบัติของผู้ที่จะมาเป็นกรรมการว่าต้องเป็นผู้มีความรู้ความสามารถในการ
ประเมินราคาทรัพย์สินเลย ซึ่งการประเมินราคาทรัพย์สินให้ถูกต้องตามหลักวิชานั้นจะต้องทำโดย
ผู้มีความรู้ความสามารถเฉพาะจริงๆ มิใช่บุคคลทั่วไปสามารถประเมินได้ ดังนั้น การที่กฎหมาย
ได้กำหนดผู้ที่จะมาเป็นคณะกรรมการไว้เช่นนี้อาจเป็นผลให้การประเมินราคาทรัพย์สินของ
คณะกรรมการดังกล่าวไม่ถูกต้องตามหลักวิชาและไม่ตรงต่อความเป็นจริงได้ กรณีจะแตกต่างไปจาก
ของประเทศอังกฤษที่ Lands Tribunal จะประกอบด้วยกรรมการที่มีความเชี่ยวชาญทางด้าน
กฎหมาย และกรรมการผู้มีความเชี่ยวชาญในการประเมินราคาทรัพย์สิน ทำให้การกำหนด
ค่าทดแทนขององค์กรนี้เป็นที่ยอมรับของผู้ถูกเวนคืนมากพอสมควร ดังนั้น หากมีการแก้ไขกฎหมาย
ให้คณะกรรมการของไทยประกอบด้วยผู้มีคุณสมบัติที่มีความรู้ความเชี่ยวชาญในการประเมินราคา
ทรัพย์สินด้วย เช่นเดียวกับกรณีของประเทศอังกฤษก็น่าจะมีความเหมาะสมยิ่งขึ้น
พระราชบัญญัติว่าด้วยการเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ พ.ศ. 2530