Page 77 - kpiebook62008
P. 77
๔๖
กระบวนการตรวจสอบที่ก่อให้เกิดความโปร่งใสอีกด้วย การกำหนดขอบเขตหน้าที่ของรัฐตามบทบัญญัติดังกล่าว
ส่งผลกระทบในแง่ดีต่อหน้าที่และสิทธิของผู้เสียภาษี
๘๖. หน้าที่ของรัฐบาลในการรักษาวินัยการเงินการคลังตามพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ
พ.ศ. ๒๕๖๑ นอกจากพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ. ๒๕๖๑ จะกำหนดหน้าที่ของรัฐในการ
รักษาวินัยการเงินการคลังแล้ว ยังกำหนดหน้าที่ให้แก่คณะรัฐมนตรีในการรักษาวินัยการเงินการคลังด้วยซึ่งปรากฏ
๙๗
ในมาตรา ๙ แห่งพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ. ๒๕๖๑ โดยที่กำหนดให้คณะรัฐมนตรีต้อง
พิจารณาประโยชน์ที่รัฐหรือประชาชนจะได้รับความคุ้มค่า และภาระการเงินการคลังที่เกิดขึ้นแก่รัฐ รวมถึงความ
เสี่ยงและความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นแก่การเงินการคลังของรัฐอย่างรอบคอบ ทั้งนี้ ต้องไม่บริหารราชการแผ่นดิน
โดยมุ่งสร้างความนิยมทางการเมืองที่อาจก่อให้เกิดความเสียหายต่อระบบเศรษฐกิจของประเทศและประชาชนใน
ระยะยาว การกำหนดหน้าที่ของรัฐบาลดังกล่าวเป็นกรอบของการกำหนดนโยบายภาษีมิให้เป็นไปเพื่อการหา
ผลประโยชน์ทางการเมือง แต่จำเป็นต้องพิจารณาถึงความคุ้มค่าของการใช้เงินภาษีซึ่งเป็นการเทียบเคียงระหว่าง
ความสำคัญของเงินภาษีที่จัดเก็บมากับประโยชน์ที่จะได้รับจากนโยบายภาษีนั้น การกำหนดหน้าที่ให้แก่รัฐบาล
ดังกล่าวจึงเป็นแนวทางหนึ่งที่ช่วยส่งเสริมความสมดุลระหว่างหน้าที่และสิทธิของผู้เสียภาษีได้
๘๗. วิธีการรักษาวินัยการเงินการคลังตามพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ. ๒๕๖๑
พระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ. ๒๕๖๑ ได้กำหนดวิธีการให้แก่รัฐในการปฏิบัติหน้าที่ในการรักษา
วินัยการเงินการคลังไว้ อาทิ การกำหนดให้มีคณะกรรมการนโยบายการเงินการคลังของรัฐตามมาตรา ๑๐ แห่ง
พระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ. ๒๕๖๑ กระบวนการเกี่ยวกับงบประมาณและการคลังตามมาตรา
๑๓-๓๐ แห่งพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ. ๒๕๖๑ วิธีการรักษาวินัยการเงินการคลังในส่วน
๙๗ มาตรา ๙ แห่งพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ. ๒๕๖๑ คณะรัฐมนตรีต้องรักษาวินัยในกิจการที่เกี่ยวกับเงิน
แผ่นดินตามพระราชบัญญัตินี้อย่างเคร่งครัด
ในการพิจารณาเรื่องที่เกี่ยวกับนโยบายการคลัง การจัดทำงบประมาณ การจัดหารายได้ การใช้จ่าย การบริหารการเงิน
การคลัง และการก่อหนี้ คณะรัฐมนตรีต้องพิจารณาประโยชน์ที่รัฐหรือประชาชนจะได้รับความคุ้มค่า และภาระการเงินการคลังที่
เกิดขึ้นแก่รัฐ รวมถึงความเสี่ยงและความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นแก่การเงินการคลังของรัฐอย่างรอบคอบ
คณะรัฐมนตรีต้องไม่บริหารราชการแผ่นดินโดยมุ่งสร้างความนิยมทางการเมืองที่อาจก่อให้เกิดความเสียหายต่อระบบ
เศรษฐกิจของประเทศและประชาชนในระยะยาว”