Page 71 - kpiebook62006
P. 71
66
(4) บุคคลซึ่งถูกละเมิดสิทธิหรือเสรีภาพที่ได้รับความคุ้มครองตามรัฐธรรมนูญ
สามารถยกบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญเพื่อใช้สิทธิทางศาลหรือยกขึ้นเป็นข้อต่อสู้คดีในศาลได้ (มาตรา 25
วรรคสาม) และบุคคลซึ่งได้รับความเสียหายจากการถูกละเมิดสิทธิหรือเสรีภาพหรือจากการกระท าความผิด
อาญา ของบุคคลอื่น ย่อมมีสิทธิที่จะได้รับการเยียวยาหรือช่วยเหลือจากรัฐตามที่กฎหมายบัญญัติ (มาตรา
25 วรรคสี่)
(5) การจ ากัดสิทธิหรือเสรีภาพของบุคคลที่รัฐธรรมนูญรับรองไว้จะกระท ามิได้
เว้นแต่การกระท าโดยอาศัยอ านาจตามบทบัญญัติแห่งกฎหมาย (กฎหมายในระดับพระราชบัญญัติหรือที่มี
ศักดิ์เทียบเท่า) ตามเงื่อนไขที่บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญ ในกรณีที่รัฐธรรมนูญไม่ได้บัญญัติเงื่อนไขไว้ บทบัญญัติ
แห่งกฎหมายที่จ ากัดสิทธิหรือเสรีภาพต้องไม่ขัดต่อหลักนิติธรรม ไม่เพิ่มภาระหรือจ ากัดสิทธิหรือเสรีภาพ
ของบุคคลเกินสมควรแก่เหตุ และจะกระทบต่อศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ของบุคคลไม่ได้ รวมทั้งต้องระบุ
เหตุผลความจ าเป็นในการจ ากัดสิทธิและเสรีภาพไว้ด้วย ทั้งนี้ กฎหมายที่จ ากัดสิทธิและเสรีภาพนั้น ต้องมีผล
เป็นการทั่วไป และไม่มุ่งหมายให้ใช้บังคับแก่กรณีหนึ่ง หรือแก่บุคคลใดบุคคลหนึ่งเป็นการเจาะจง (มาตรา 26)
อย่างไรก็ตาม การพิจารณาว่าสิทธิหรือเสรีภาพใดจะถูกจ ากัดได้หรือไม่นั้น ต้อง
พิจารณาสิทธิและเสรีภาพดังกล่าว เป็นสิทธิและเสรีภาพที่รัฐธรรมนูญรับรองไว้อย่างสัมบูรณ์ (absolute)
หรือรับรองไว้อย่างสัมพัทธ์ (relative) กล่าวคือ หากเป็นสิทธิและเสรีภาพที่รัฐธรรมนูญรับรองไว้อย่าง
สัมบูรณ์แล้ว การรับรองสิทธิและเสรีภาพนั้นเป็นการรับรองแบบไม่มีเงื่อนไข ไม่อาจมีการตรากฎหมายเพื่อ
จ ากัดสิทธิและเสรีภาพนั้นได้ เช่น เสรีภาพของบุคคลในการนับถือศาสนา เป็นต้น แต่หากเป็นสิทธิและ
เสรีภาพแบบสัมพัทธ์แล้ว สามารถที่จะตรากฎหมายเพื่อจ ากัดสิทธิและเสรีภาพนั้นได้ เช่น เสรีภาพในการ
แสดงความคิดเห็น เป็นต้น
(6) บุคคลย่อมเสมอกันในกฎหมาย มีสิทธิและเสรีภาพและได้รับความคุ้มครอง
ตามกฎหมายเท่าเทียมกัน (มาตรา 27)
ทั้งนี้ ในรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 ได้บัญญัติสิทธิและเสรีภาพ
ของปวงชนชาวไทยไว้หลายประการ เช่น
สิทธิและเสรีภาพในชีวิตและร่างกาย (มาตรา 28)
เสรีภาพบริบูรณ์ในการถือศาสนาและย่อมมีเสรีภาพในการปฏิบัติหรือประกอบพิธีกรรม
ตามหลักศาสนาของตน (มาตรา 31)
