Page 67 - kpiebook62006
P. 67

62


                                                                                             50
                 อยู่ร่วมกันรวมทั้งมีส่วนร่วมต่อความเป็นไปทางสังคมและร่วมแก้ปัญหาของสังคมด้วยสันติวิธี  จึงสรุปได้ว่า
                 ความเป็นพลเมืองในสังคมเผด็จการและประชาธิปไตยจึงมีความแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง ความเป็นพลเมืองจึง

                 เป็นค าที่มีความส าคัญต่อการพัฒนาประชาธิปไตย ประชาธิปไตยจะประสบความส าเร็จได้ไม่ใช่เพียงแต่มี

                 รัฐธรรมนูญที่ดีเท่านั้น แต่ประชาชนจะต้องเป็น “พลเมือง” ตามระบอบประชาธิปไตยด้วย  โดยเฉพาะการ
                                                                                           51
                 พัฒนากรอบคิด (mindset) ของพลเมืองที่รอคอยการแก้ไขปัญหาโดยรัฐ (passive citizen) ไปสู่การเป็น

                 พลเมืองที่ใส่ใจในบทบาทหน้าที่ของตนในฐานะพลเมือง (concerned citizen) ไปจนถึงลงมือท า (action)

                 ด้วยตนเองเพื่อชุมชน (active citizen) เป็นพลเมืองที่รู้ถึงพลังอ านาจของตน ร่วมมือกันในการแก้ไขปัญหา

                 ชุมชน เปลี่ยนแปลงความคิดและแสดงออกถึงความเป็นพลเมืองที่กระตือรือร้นและมีส่วนร่วมและได้พัฒนา

                                         52
                 ตนเองสู่พลเมืองประชาธิปไตย

                               นอกจากนั้นแล้ว หากศึกษางานวิจัยที่เกี่ยวข้องกับการเสริมสร้างความเป็นพลเมือง

                 ในระบอบประชาธิปไตยในระดับพื้นที่แล้ว เช่น งานวิจัยของรองศาสตราจารย์ วิไลวัจส์ กฤษณะภูติ และ

                 คณะ ทึ่ศึกษาแนวทางการเสริมสร้างการเมืองภาคพลเมืองบนพื้นฐานประชาธิปไตยในจังหวัดขอนแก่น

                 พบว่าเสริมสร้างการเมืองภาคพลเมืองนั้น ต้องมีการจัดกิจกรรมอย่างต่อเนื่องทางการเมือง เศรษฐกิจ และ

                 สังคม มีการประยุกต์ใช้ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงทฤษฎีใหม่ การส่งเสริมให้พลเมืองมีใจรัก มีจิตอาสา

                 มีอุดมการณ์ เน้นการมีส่วนร่วม มีองค์ความรู้ ตลอดจนต้องมีการติดตามและประเมินผล และควรขยายผล


                                                                  54
                              53
                 ไปยังพื้นที่อื่น ๆ  ด้วย ส่วนงานวิจัยของญาศินี เกิดผลเสริฐ  ซึ่งได้รับทุนสนับสนุนจากสถาบันพระปกเกล้า
                 พบว่าทุนมนุษย์เป็นสิ่งส าคัญของการเสริมสร้างความเป็นพลเมืองให้ตื่นตัวในชุมชนในประเทศไทย

                 โดยลักษณะความเป็นพลเมืองที่ตื่นตัวในชุมชนเข้มแข็งต้นแบบองค์ประกอบที่ส าคัญ ได้แก่ มิติด้านตัวตน

                 คือการที่คนในชุมชนต้องตระหนักถึงปัญหาที่เกิดขึ้นในชุมชน เห็นแก่ประโยชน์ส่วนร่วม ใฝ่รู้ ใฝ่เรียน โดย

                 การรับรู้ และรับฟังข่าวสารต่าง ๆ อย่างสม่ าเสมอ ท าให้เกิดความกระตือรือร้นที่จะแก้ไขปัญหา ตลอดจน




                        50  ทิพย์พาพร ตันติสุนทร, การศึกษาเพื่อสร้างพลเมือง, (กรุงเทพมหานคร: สถาบันนโยบายศึกษา, 2555), หน้า 42.
                        51  วรากรณ์ สามโกเศศ, การศึกษาเพื่อสร้างความเป็นพลเมือง, มติชน, (3 มีนาคม 2554), สืบค้นจาก http://www.moe.go.th/
                 moe/th/news/detail.php?NewsID=22721&key=news_research, อ้างถึงในถวิลวดี บุรีกุล และคณะ, ความเป็นพลเมืองในประเทศไทย
                 Citizenship in Thailand ,เอกสารเผยแพร่ในการประชุมวิชาการสถาบันพระปกเกล้า ครั้งที่ 13 ณ ศูนย์ประชุมสหประชาชาติ วันที่ 22 - 24
                 มีนาคม 2555, หน้า 4.
                        52  ส านักส่งเสริมการเมืองภาคพลเมือง สถาบันพระปกเกล้า, รายงานการสังเคราะห์องค์ความรู้โครงการปฏิบัติการเสริมสร้างพลัง
                 พลเมือง จังหวัดร้อยเอ็ด, (กรุงเทพมหานคร: สถาบันพระปกเกล้า, 2561), หน้า 63.
                        53  วิไลวัจส์ กฤษณะภูติ และคณะ, รายงานการวิจัย แนวทางการเสริมสร้างการเมืองภาคพลเมืองบนพื้นฐานประชาธิปไตยใน
                 จังหวัดขอนแก่น, (กรุงเทพมหานคร : สถาบันพระปกเกล้า, 2555), บทคัดย่อ.
                        54  ญาศินี เกิดผลเสริฐ, รูปแบบการพัฒนาทุนมนุษย์เพื่อการเสริมสร้างความเป็นพลเมืองที่ตื่นตัวในชุมชน, ดุษฎีนิพนธ์ปริญญา
                 ดุษฎีบัณฑิต สาขานโยบายสาธารณะและการจัดการภาครัฐ คณะสังคมศาสตร์และมนุษยศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล, 2562, บทสรุปผู้บริหาร.
   62   63   64   65   66   67   68   69   70   71   72