Page 66 - kpiebook62006
P. 66

61


                               (4) เคารพสิทธิผู้อื่น ในระบอบประชาธิปไตยที่ทุกคนเป็นเจ้าของประเทศ ทุกคนมีสิทธิ

                 เสรีภาพ แต่หากทุกคนใช้สิทธิโดยค านึงถึงแต่ประโยชน์ของตนเอง โดยไม่ค านึงถึงถึงสิทธิผู้อื่น ย่อมท าให้เกิด

                 การกระทบกระทั่งกันจนไม่อาจจะอยู่ร่วมกันอย่างสงบสุขได้ ประชาธิปไตยก็จะกลายเป็นอนาธิปไตย เพราะ

                 ทุกคนเอาแต่สิทธิของตนเป็นใหญ่ สุดท้ายประเทศชาติก็จะไปไม่รอด  ดังนั้น สิทธิในระบอบประชาธิปไตยจึง

                 ต้องเคารพสิทธิของผู้อื่นและจะต้องไม่ใช้สิทธิเสรีภาพของตนไปละเมิดสิทธิของผู้อื่น

                               (5) เคารพกติกา ในระบอบประชาธิปไตยสิ่งที่จะท าให้การอยู่ร่วมกันเป็นไปโดยสงบสุข

                 เครื่องมือที่ส าคัญคือกติกาหรือกฎหมาย เพื่อป้องกันไม่ให้มีการใช้ก าลังหรือใช้อ านาจตามอ าเภอใจ โดยทุก

                 คนต้องเสมอภาคกันภายใต้กติกาหรือกฎหมายนั้น แต่หากแม้มีกติกาหรือกฎหมาย แต่หากประชาชนไม่

                 เคารพ หรือไม่ปฏิบัติตาม กติกาหรือกฎหมายก็ไม่มีประโยชน์อะไร ระบอบประชาธิปไตยจะประสบ

                 ความส าเร็จได้ต่อเมื่อพลเมืองเคารพกติกา และยอมรับผลของการละเมิดกติกา โดยหากมีปัญหาเกิดขึ้นก็


                 ต้องใช้วิถีทางประชาธิปไตยและใช้กติกาในการแก้ไขไม่เล่นนอกกติกาและไม่ใช้ก าลังหรือความรุนแรง
                               (6) รับผิดชอบต่อสังคมและส่วนรวม ในการปกครองระบอบประชาธิปไตยนอกจาก


                 จะต้องเคารพสิทธิเสรีภาพของผู้อื่น และรับผิดชอบต่อผู้อื่นแล้ว พลเมืองในระบอบประชาธิปไตยยังจะต้องใช้

                 สิทธิเสรีภาพของตนโดยรับผิดชอบต่อสังคมด้วย ต้องตระหนักว่าตนเองเป็นสมาชิกคนหนึ่งของสังคมและ

                 รับผิดชอบต่อการกระท าของตน ไม่ใช่ใช้สิทธิเสรีภาพตามอ าเภอใจจนท าให้สังคมเสื่อมลง เพราะการกระท า

                 ของตนเองจะส่งผลต่อสังคมและส่วนรวม พลเมืองจึงต้องรับผิดชอบต่อสังคมและมองตนเองเชื่อมโยงกับ

                 สังคม เห็นตัวเองเป็นส่วนหนึ่งของปัญหาและมีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหาโดยเริ่มต้นที่ตนเอง


                               ส าหรับความเป็นพลเมืองส าหรับคนไทยและสังคมไทยนั้น ที่ผ่านมายังไม่มีการท าความ

                 เข้าใจให้ตรงกันชัดเจน การใช้ค าว่าประชาชน และพลเมืองจึงถูกใช้ควบคู่กันอยู่เสมอโดยมิอาจแยกแยะ

                 ความหมายและความส าคัญของค าดังกล่าว ค าว่า “พลเมือง” นั้น มีปรากฏอยู่ในทุกระบอบการปกครองของ

                 แต่ละประเทศ แต่พลเมืองจะมีบทบาทหน้าที่และบุคลิกภาพอย่างไรก็อยู่ที่ระบอบทางการเมืองของรัฐนั้น

                 ซึ่งรวมถึงวิถีชีวิตการกินเป็นอยู่เป็นและคิดเป็นอย่างไรล้วนอยู่ที่การเมืองการปกครองนี้ทั้งสิ้น ยกตัวอย่าง

                 เช่น ระบอบเผด็จการพลเมืองก็จะเป็นผู้รับสนองนโยบายของรัฐเคารพกฎระเบียบอย่างเคร่งครัดเป็นผู้ตาม

                                                                                                        49
                 ที่ดี ไม่ต้องมีความคิดเห็นเป็นผลดี ที่ไม่กล้าโต้แย้งเพราะถูกจ ากัดเสรีภาพและรัฐท าให้ทุกอย่างอยู่แล้ว
                 ความเป็นพลเมืองในระบบประชาธิปไตยจึงหมายถึงการเป็นสมาชิกในสังคมที่มีอิสรภาพควบคู่ไปกับความ

                 รับผิดชอบและมีเสรีภาพควบคู่กับหน้าที่โดยมีความสามารถในการยอมรับความแตกต่างเคารพกฎกติกาการ






                        49  ทิพย์พาพร ตันติสุนทร, การศึกษาเพื่อสร้างพลเมือง, (กรุงเทพมหานคร: สถาบันนโยบายศึกษา, 2555), หน้า 5.
   61   62   63   64   65   66   67   68   69   70   71