Page 62 - kpiebook62006
P. 62
57
40
ถวิลวดี บุรีกุล และคณะ ได้แบ่งคุณสมบัติของความเป็นพลเมืองออกเป็น 3 กลุ่ม ดังนี้
(1) มีค่านิยมตามประเพณีนิยม (Traditional Values) ประกอบด้วยการเคารพผู้อาวุโส
กว่า เสียสละเวลาท างานเพื่อส่วนรวม ปฏิบัติตามกฎหมาย ปฏิบัติตามหลักศาสนา มีความภูมิใจในการเป็น
คนไทย ท างานแบบสุจริต บริจาคโลหิต สิ่งของและรักษาสิ่งแวดล้อม
(2) มีความรู้เกี่ยวกับการเป็นพลเมือง (Civic knowledge) ประกอบด้วย การสามารถ
เปรียบเทียบนโยบายของพรรคและผู้สมัคร มีความรู้เรื่องการเมืองของประเทศต่าง ๆ เต็มใจที่จะเสียภาษี
(3) การมีส่วนร่วมทางการเมือง ซึ่งประกอบไปด้วยการไปใช้สิทธิเลือกตั้งเสมอ การเป็น
สมาชิกกลุ่ม สามารถไปร่วมชุมนุม ติดตามการท างานของนักการเมืองและข้าราชการ
41
ความส านึกในพื้นฐานการเป็นพลเมืองที่ส าคัญ ได้แก่
(1) การเมืองเสรีภาพในการปกครองตนเอง ตระหนักในอ านาจอธิปไตยของตน
(2) ความรับผิดชอบต่อหน้าที่พลเมือง การท าหน้าที่ของตนอย่างตื่นตัว รู้เท่าทันและใช้
ปัญญา และมีส่วนร่วมคือการก าหนดชีวิตสาธารณะของตนเอง
(3) พลเมืองต้องท างานร่วมกับรัฐและการเมืองระบบตัวแทน เป็นหุ้นส่วนที่สนับสนุน
เกื้อกูลกัน ไม่ล้มล้างหรืออยู่คนละฝ่าย เพราะพลเมืองต้องอาศัยการท างานเชิงโครงสร้างโดยภาครัฐ เพื่อ
ประโยชน์ต่อบ้านเมืองและสังคม
(4) ต้องตระหนักความเป็นพลเมืองในระดับสากลไม่ใช่พลเมืองของประเทศตัวเองเท่านั้น
การจะท าให้ภาคพลเมืองมีพลังทางการเมืองอย่างมีประสิทธิภาพ ต้องประกอบไปด้วย
อ านาจ 3 ประการ ดังต่อไปนี้
42
(1) อ านาจโดยความรู้ หมายถึง พลเมืองจะต้องมีความรู้ความเข้าใจในเรื่องการเมืองการ
ปกครองในระบอบประชาธิปไตยเป็นอย่างดี รวมทั้งมีความรู้ความเข้าใจเรื่องโครงสร้างอ านาจรัฐ องค์กรและ
สถาบันของรัฐที่เกี่ยวข้องกับสิทธิและเสรีภาพ
(2) อ านาจในการปฏิบัติ หมายถึง พลเมืองต้องมีทักษะในการเข้าร่วมกิจกรรมทางการเมือง
ที่นอกเหนือจากการเลือกตั้ง เช่น ทักษะการรวมกลุ่ม การแสดงความเห็นและการอภิปรายอย่างมีเหตุผล
การมีส่วนร่วม การคิดวิเคราะห์ไตร่ตรองและการใคร่ครวญ การค้นหาและการใช้ข้อมูลข้อเท็จจริง การ
เคลื่อนไหวทางการเมือง เป็นต้น
40 ถวิลวดี บุรีกุล และคณะ, ความเป็นพลเมืองในประเทศไทย, เอกสารประชุมวิชาการสถาบันพระปกเกล้า ครั้งที่ 13 ศูนย์ประชุม
สหประชาชาติ, หน้า 12.
41 ศรัณยุ หมั้นทรัพย์, อ้างแล้ว.
42 เรื่องเดียวกัน, หน้า 104