Page 73 - kpiebook62006
P. 73

68


                               สิทธิของมารดาในช่วงระหว่างก่อนและหลังการคลอดบุตรย่อมได้รับความคุ้มครอง และ

                 ช่วยเหลือ (มาตรา 48 วรรคหนึ่ง) ตามที่กฎหมายบัญญัติ

                               บุคคลซึ่งมีอายุเกินหกสิบปีและไม่มีรายได้เพียงพอแก่การยังชีพ และบุคคลผู้ยากไร้ย่อมมี

                 สิทธิได้รับความช่วยเหลือที่เหมาะสมจากรัฐ  (มาตรา 48 วรรคสอง)


                               ทั้งนี้ หากพิจารณาสิทธิและเสรีภาพที่บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย

                 พุทธศักราช 2560 ข้างต้นแล้ว จะเห็นได้ว่า สิทธิและเสรีภาพที่บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญหลายประการนั้น

                 มีส่วนส าคัญในการอ านวยความสะดวกให้กับความเป็นพลเมือง และเสริมสร้างความเข้มแข็งให้กับการเมือง

                 “ภาคพลเมือง” ยกตัวอย่างเช่น

                               (1) เสรีภาพในการชุมนุมโดยสงบและปราศจากอาวุธ โดยเฉพาะการปกครองในระบอบ

                 ประชาธิปไตยแล้วนั้น การชุมนุมโดยสงบและปราศจากอาวุธ ถือเป็นการแสดงออกของประชาชนในการได้

                 ร่วมประชุมกันเพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็น หรือแสดงซึ่งเจตจ านงของตนที่เชื่อมโยงและเกี่ยวข้องกับ

                 ผลประโยชน์ของสาธารณะ เพื่อให้รัฐได้รับทราบถึงเจตจ านงและการแสดงออกนั้น ก่อนที่จะตัดสินใจ

                 ด าเนินการหรือพิจารณาเรื่องใดเรื่องหนึ่งที่อาจกระทบต่อประชาชน ทั้งนี้ เสรีภาพดังกล่าวล้วนมีความ

                 สอดคล้องกับเสรีภาพอื่น ๆ ที่รัฐธรรมนูญให้การรับรองไว้เป็นหลักการพื้นฐาน เพื่ออ านวยความสะดวก

                 ให้กับความเป็นพลเมือง เช่น เสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น การพูด การเขียน การพิมพ์ การโฆษณา


                 และการสื่อความหมายโดยวิธีอื่น เสรีภาพในการติดต่อสื่อสารถึงกันไม่ว่าในทางใด ๆ เสรีภาพในการเดินทาง

                 เป็นต้น โดยถือว่ารัฐต้องงดเว้นการแทรกแซงการชุมชนนั้น หากเป็นการชุมนุมโดยสงบ และปราศจากอาวุธ

                 ตลอดจนต้องอ านวยความสะดวกให้แก่ประชาชนในการชุมนุมด้วย

                               (2) เสรีภาพในการรวมตัวจัดตั้งพรรคการเมืองตามวิถีทางการปกครองระบอบ

                 ประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข อันเนื่องมาจากพรรคการเมืองคือสถาบันทางการเมือง

                 ที่มีบทบาทส าคัญในระบบการเมืองในระบอบประชาธิปไตย เกิดขึ้นจากการรวมตัวของบุคคลเป็นคณะบุคคล

                 โดยคณะบุคคลดังกล่าวที่รวมตัวกันนั้นมีความเห็นพ้องกันต้องกันในอุดมการณ์ทางการเมืองหรือใน

                 แนวนโยบายเดียวกัน โดยมุ่งหวังที่จะเข้ามาบริหารประเทศในฐานะรัฐบาล ในอีกมุมหนึ่งพรรคการเมืองก็มี

                 บทบาทส าคัญในการเป็นตัวกลางในการก่อตั้งและเชื่อมโยงความต้องการสาธารณะหรือเจตนารมณ์ทาง

                 การเมืองร่วมกันของประชาชน เพื่อน ามาสู่นโยบายของประเทศที่สามารถน าไปปฏิบัติได้จริงอย่างเป็น

                 รูปธรรม การที่รัฐธรรมนูญก าหนดให้ประชาชนมีเสรีภาพในการจัดตั้งพรรคการเมือง จึงถือว่าเป็นเครื่องมือ

                 ส าคัญที่สร้างโอกาสให้ประชาชนสามารถเข้ามามีส่วนร่วมทางการเมืองได้ในฐานะที่ตนเป็นพลเมืองคนหนึ่ง

                 ของประเทศ
   68   69   70   71   72   73   74   75   76   77   78