Page 52 - kpiebook62006
P. 52

47


                                       การแบ่งแยกสิทธิและเสรีภาพโดยพิจารณาจากผู้ทรงสิทธินี้ โดยแท้จริงแล้วเป็น

                 การพิจารณาจากเนื้อหาของสิทธิว่า สิทธิใดควรจะให้กับบุคคลทุกคน และสิทธิใดควรจะจ ากัดให้เฉพาะ

                 พลเมืองของชาตินั้นเท่านั้น ซึ่งการแบ่งแยกสิทธิและเสรีภาพประเภทนี้จะน าไปสู่การแยกสิทธิและเสรีภาพ

                 ของพลเมืองของชาติออกจากสิทธิมนุษยชน หรือจะกล่าวอีกนัยหนึ่งคือการก าหนดขอบเขตในการคุ้มครอง

                                          19
                 ของสิทธิแต่ละประเภทนั่นเอง  โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อรัฐธรรมนูญของรัฐใดได้ก าหนดสิทธิพลเมืองของรัฐ
                 นั้นไว้ ก็มักก าหนดหน้าที่ของพลเมืองตามมาด้วย  เช่น หน้าที่ไปใช้ใช้สิทธิเลือกตั้ง  เป็นต้น


                               จากการศึกษาแนวคิดเกี่ยวกับสิทธิเสรีภาพข้างต้น จึงเห็นได้ว่า “สิทธิ” “เสรีภาพ”และ

                 “หน้าที่” ล้วนมีความเชื่อมโยงกัน กล่าวคือ สิทธิหมายถึงอ านาจที่กฎหมายรับรองให้แก่บุคคลคนหนึ่ง ในอัน

                 ที่จะเรียกร้องให้ผู้อื่นกระท าการบางอย่างบางประการให้เกิดประโยชน์แก่ตน หรือให้ละเว้นกระท าการอย่าง

                 ใดอย่างใดอย่างหนึ่ง จึงอาจกล่าวได้ว่า “สิทธิ” ได้ก่อให้เกิด “หน้าที่” แก่บุคคลอื่นด้วย ในทางกฎหมาย

                 มหาชน สิทธินั้นจะเรียกร้องให้รัฐโดยหน่วยงานของรัฐ กระท าการ หรือไม่กระท าการใด ๆ เพื่อตนได้ทุก

                 กรณี ในขณะที่ “เสรีภาพ” หมายถึง อ านาจของบุคคลในอันที่จะก าหนดตนเอง โดยอ านาจนี้บุคคลย่อม

                                                                                    20
                 เลือกวิถีชีวิตของตนได้ด้วยตนเอง เสรีภาพจึงเป็นอ านาจที่บุคคลมีอยู่เหนือตนเอง”  และมีอิสระในการที่จะ
                 กระท าการอย่างใดอย่างหนึ่ง หรือไม่กระท าการใดตามความประสงค์ของตน โดยใจสมัครอันปราศจากการ

                                                        21
                 บังคับหรืออยู่ภายใต้อาณัติของบุคคลอื่นหรือรัฐ  ในแง่หนึ่งอาจมองได้ว่าการมี “เสรีภาพ” คือ การที่บุคคล

                 มีอิสระที่จะกระท าการหรืองดเว้นกระท าการใดๆ โดยไม่ได้ก าหนดให้รัฐหรือบุคคลใดมีหน้าที่แต่ประการใด

                 แต่หากมองอีกแง่แล้ว การที่กฎหมายรับรองเสรีภาพอย่างใดอย่างหนึ่งให้แก่บุคคล ย่อมมีผลก่อให้เกิด

                 “หน้าที่” แก่ผู้อื่นด้วยเหมือนกัน แต่ “หน้าที่” ที่เกิดขึ้นแก่ผู้อื่นอันเนื่องมาจากการที่กฎหมายรับรอง

                 เสรีภาพให้แก่บุคคลคนหนึ่งนี้ เป็นแต่เพียง “หน้าที่” ที่จะต้องเคารพเสรีภาพของเขา ผู้ทรงเสรีภาพคงมี

                 อ านาจตามกฎหมายแต่เพียงที่จะเรียกร้องให้ผู้อื่นละเว้นจากการรบกวนขัดขวางการใช้เสรีภาพของตน

                       22
                 เท่านั้น  ดังนั้น อาจกล่าวโดยได้สรุปได้ว่า “สิทธิ” และ “เสรีภาพ” ย่อมมีความสัมพันธ์กับหน้าที่อย่าง
                 ปฏิเสธไม่ได้




                        19  บรรเจิด สิงคะเนติ, หลักพื้นฐานเกี่ยวกับสิทธิเสรีภาพ และศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์, (กรุงเทพมหานคร: บริษัท ส านักพิมพ์วิญญู
                 ชน จ ากัด, 2552), หน้า 54.
                        20  วรพจน์ วิศรุตพิชญ์, รายงานการวิจัย สิทธิและเสรีภาพตามรัฐธรรมนูญ(ศึกษารูปแบบการจ ากัดสิทธิและเสรีภาพที่รัฐธรรมนูญ
                 ให้ไว้อย่างเหมาะสม), (กรุงเทพมหานคร : ส านักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย, 2538), หน้า 17.
                        21  สมคิด เลิศไพฑูรย์, กฎหมายรัฐธรรมนูญ หลักการใหม่ตามรัฐธรรมนูญแห่งอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2540,
                 (กรุงเทพมหานคร: ส านักพิมพ์มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์,  2548), หน้า 47.
                        22  วรพจน์ วิศรุตพิชญ์, รายงานการวิจัย สิทธิและเสรีภาพตามรัฐธรรมนูญ(ศึกษารูปแบบการจ ากัดสิทธิและเสรีภาพที่รัฐธรรมนูญ
                 ให้ไว้อย่างเหมาะสม), (กรุงเทพมหานคร : ส านักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย, 2538), หน้า 17.
   47   48   49   50   51   52   53   54   55   56   57