Page 49 - kpiebook62004
P. 49

บทบาทนานาชาติต่อกระบวนการสร้างสันติภาพในชายแดนใต้ของไทยและบางมุมมองต่อภาพอนาคต






                              บริหำรจังหวัดชำยแดนภำคใต้ (ศอ.บต.) มีหน้ำที่ในกำรด ำเนินงำนด้ำนกำรเมือง และสังคม
                              จิตวิทยำ เป็นกำรปฏิบัติงำนด้ำนกำรเมือง ควบคู่ไปกับกำรปฏิบัติงำนด้ำนกำรทหำร ภำยใต้

                              กำรควบคุมของแม่ทัพภำค 4 กำรผนึกก ำลังระหว่ำงหน่วยงำน และส่วนรำชกำรของพล
                              เรือน ต ำรวจ ทหำร ก่อให้เกิดประสิทธิภำพ ขบวนกำรแบ่งแยกดินแดน และขบวนกำรโจร

                              ก่อกำรร้ำยต่ำง ๆ ประสบควำมสูญเสียอย่ำงหนัก จำกกำรปรำบปรำมของเจ้ำหน้ำที่ สมำชิก

                              ของ BRN และ PULO ถูกปรำบปรำม ถูกจับกุม และมอบตัวเป็นผู้ร่วมพัฒนำชำติไทยเป็น
                              จ ำนวนมำก  เจ้ำหน้ำที่ระดับสูงของ ศอ.บต. กล่ำวว่ำ ช่วงเวลำตั้งแต่ปี 2524 จนถึงปี 2545

                              ซึ่งเป็นปีที่มีกำรยุบ พตท. 43 ช่วงเวลำดังกล่ำว มีผู้เข้ำมอบตัวเป็นจ ำนวนไม่ต่ ำกว่ำ 1,200
                              คน (ประชำไท 2548, เน้นโดยผู้วิจัย)



                          2.3.4 มุมมองของฝ่ายขบวนการ
                                  เพื่อจะเข้ำใจกระบวนกำรแก้ปัญหำในชำยแดนใต้ผ่ำนกระบวนกำรสันติภำพ จ ำเป็นต้อง

                   กล่ำวถึง ประวัติกำรต่อสู้และมุมมองของฝ่ำยขบวนกำรในฐำนะที่เป็นปรปักษ์ต่อรัฐ และเป็น “คู่สนทนำ”

                   ที่ส ำคัญยิ่งต่อกำรแก้ไขปัญหำชำยแดนใต้ ควำมเห็นของผู้น ำขบวนกำรรำยหนึ่งที่ปัจจุบันพ ำนักอยู่ใน
                   ต่ำงประเทศให้ควำมเห็นต่อมุมมองต่อปัญหำและแนวทำงในกำรแก้ปัญหำของรัฐไทยว่ำ

                                 กำรที่รัฐมองสภำพปัญหำที่เกิดขึ้นเป็นเพียง “ปัญหำอำชญำกรรม” นั้น ไม่เป็นผลดีต่อ
                          กระบวนกำรแก้ปัญหำที่ตรงจุดอย่ำงแท้จริง เนื่องจำกกลุ่มขบวนกำรต่อสู้ในพื้นที่ไม่ใช่ “อำชญำ

                          กร” ทั่วไป หำกแต่เป็น “นักต่อสู้ที่มีอุดมกำรณ์ทำงกำรเมืองที่วำงอยู่บนฐำนชำตินิยมมลำยู

                          ปัตตำนีอย่ำงเข้มข้น มีหลักกำรในกำรต่อสู้ตำมแนวทำงที่ชัดเจน และเรำไม่ยอมรับในสิ่งที่รัฐ
                          สยำมยัดเยียดให้เรำ (สัมภำษณ์, 18 เมษำยน 2562)


                          ไม่ว่ำจะนิยำมควำมขัดแย้งในพื้นที่ชำยแดนใต้อย่ำงไรก็ตำม ค ำอธิบำยที่ชัดเจนที่สุดได้มำจำก

                   นักรบฝ่ำยรัฐผู้หนึ่งที่อยู่ในสมรภูมิภำคใต้มำนำนกว่ำ 10 ปีที่กล่ำวว่ำในสำมจังหวัดชำยแดนภำคใต้

                                    “...มันเป็นสงครำม แต่ว่ำเป็นสงครำมประชำชน อันเกิดจำกประชำชนเชื้อสำยมลำยู
                              กลุ่มหนึ่งที่คิดต่อต้ำนอ ำนำจกำรปกครองของรัฐไทย และได้ใช้กระบวนกำรในระบบองค์กร

                              ปฏิวัติด ำเนินงำนท ำสงครำมประชำชนต่อรัฐไทย ด้วยกำรจัดเป็นองค์กรปฏิวัติในลักษณะ

                              องค์กรลับ ใช้งำนมวลชนเป็นพื้นฐำนในกำรต่อสู้ในทุกรูปแบบโดยใช้มวลชนที่เป็นเชื้อสำย
                              มลำยูเท่ำนั้น และใช้ยุทธวิธีเป็นหน่วยทหำรขนำดเล็กเพื่อท ำกำรต่อสู้กับรัฐไทยในรูปแบบ

                              ของกำรก่อกำรร้ำยในรูปแบบของกองโจรเพื่อสนับสนุนงำนมวลชนให้เข้มแข็งขึ้น เพื่อจะ

                              น ำไปสู่กำรปกครองตนเองในลักษณะรัฐอิสลำม”(ส ำเร็จ ศรีหร่ำย, 2557: 146-147 อ้ำงถึง
                              ใน ศรีสมภพ จิตร์ภิรมย์ศรี, 2560)



                                                             36
   44   45   46   47   48   49   50   51   52   53   54