Page 48 - kpiebook62004
P. 48

บทบาทนานาชาติต่อกระบวนการสร้างสันติภาพในชายแดนใต้ของไทยและบางมุมมองต่อภาพอนาคต






                   2561: หน้ำค ำนิยม 5) ค ำเตือนของพิชัยข้ำงต้นมีนัยยะไม่เพียงแต่แว่นในกำรมองปัญหำเท่ำนั้น แต่สัมพันธ์
                   กับวิธีกำรจัดกำรกับปัญหำอีกด้วย เพรำะเมื่อมองเป็นเรื่องอำชญำกรรมวิธีกำรจัดกำรกับปัญหำอำจเป็น

                   วิธีกำรอื่น เช่น กำรบังคับใช้กฎหมำยในกำรลงโทษอย่ำงรุนแรงเพื่อกำรก ำรำบปรำบปรำม หรือท ำให้
                   ปรับเปลี่ยนพฤติกรรม แต่เมื่อเป็นเรื่องกำรเมือง  วิธีกำรจัดกำรจึงไม่ใช่เพียงแค่กำรใช้กฎหมำยหำกแต่เป็น

                              กำรจัดกำรกับอ ำนำจและกำรสร้ำงดุลอ ำนำจระหว่ำงประชำชนกับรัฐ เช่นเดียวกับควำม

                   ขัดแย้งทำงกำรเมืองในเรื่องอื่นๆในอดีต เช่น ควำมขัดแย้งทำงอุดมกำรณ์ระหว่ำงรัฐกับพรรคคอมมิวนิสต์
                   แห่งประเทศไทย (พคท.) หรือควำมขัดแย้งระหว่ำงมวลชนสีต่ำงๆ เมื่อไม่นำนมำนี้ ทั้งหมดนี้ก็เป็นปัญหำ

                   กำรเมือง กล่ำวคือเป็นกำรเรียกร้องเพื่อให้เกิดกำรเปลี่ยนแปลงควำมสัมพันธ์ทำงอ ำนำจ กำรใช้ก ำลังหรือ
                   กำรก่อกำรร้ำยเป็นเพียงเครื่องมือ หำได้หวังผลส ำเร็จในกำรยึดอ ำนำจเพื่อให้เกิดกำรเปลี่ยนแปลงได้ แต่

                   เพื่อสร้ำงอ ำนำจต่อรองให้กับผู้มีอ ำนำจที่มำเจรจำ เพื่อปรับเปลี่ยนนโยบำย ท่ำที หรือพฤติกรรมเท่ำนั้น

                   (พิชัย, 2561 หน้ำค ำนิยม 5) ดังนั้น นโยบำยในช่วง
                                    “ปี 2542...สมช. เตรียมที่จะเขียนนโยบำยควำมมั่นคงชำยแดนใต้ใหม่ จึงมีเจ้ำหน้ำที่

                              กลุ่มหนึ่งใน สมช. ที่ต้องกำร “เข้ำใจ” จึงไปเดินพูดคุยกับประชำชนใน จชต. เขำอยำกให้

                              นโยบำยมำจำกประชำชน นโยบำยที่เขียนจึงก้ำวหน้ำมำก เรำเขียนนโยบำยนี้ก่อนกำรตกลง
                              สันติภำพที่ไอร์แลนด์เหนือ หรือที่เรียกว่ำข้อตกลง Good Friday นโยบำยของเรำเป็นที่

                              สนใจของต่ำงประเทศหลำยประเทศ UN ได้เอำไปแปลด้วย แต่ความย้อนแย้งก็คือ ท าไม
                              นโยบายดีที่ประกาศใช้ได้เพียงสามปี พอขึ้นปีที่สี่ (ปี 2547)ควำมรุนแรงก็ปะทุขึ้น ส ำหรับ

                              ผม ค ำตอบนั้นชัดพอสมควร นโยบายนั้นเริ่มที่ประชาชน เมื่อร่างเรียบร้อยแล้ว สุดท้าย

                              นายกรัฐมนตรีเป็นผู้อนุมัติ แต่เรื่องที่มองข้ามไป คือ เจ้าหน้าที่รัฐในพื้นที่ไม่เห็นด้วยกับ
                              การเอานโยบายและคนในพื้นที่เป็นศูนย์กลาง เมื่อเจ้าหน้าที่ไม่ชอบก็เลยต่อต้านอย่าง

                              รุนแรง จากใต้ดิน หัวหน้าในพื้นที่คนใดไม่ชอบก็ปิดตาข้างหนึ่ง ปล่อยให้ลูกน้องท า...”
                              (นักวิชำกำรระดับสูง, สัมภำษณ์ 16 สิงหำคม 2562)



                              ควำมโชคร้ำยคือ แนวนโยบำยที่ดีและมำจำกกำรมีส่วนร่วมของประชำชนนั้นมีอำยุสั้น และ
                   ยังมีช่องว่ำงในกำรน ำไปปฏิบัติ ขณะที่ความต่อเนื่องในเชิงการใช้ก าลังปราบปรามของนโยบายรัฐมี

                   มากกว่าที่จะใช้แนวทางการพูดคุย หรือแนวทางอื่นที่ลดการใช้ความรุนแรง  เห็นได้จำก

                                    แนวทำงของนโยบำย 66/23 ที่ได้ถูกน ำมำใช้แก้ปัญหำกำรก่อกำรร้ำยในภำคใต้ ซึ่ง
                              เป็นที่มำของค ำสั่งส ำนักนำยกรัฐมนตรีที่ 8/24 เรื่อง กำรแก้ไขปัญหำกำรบริหำรรำชกำร ใน

                              จังหวัดชำยแดนภำคใต้ โดยให้กองอ ำนวยกำรรักษำควำมมั่นคงภำยใน (กอ.รมน.) จัดตั้ง

                              กองบัญชำกำรผสมพลเรือน ต ำรวจ ทหำรที่ 43 (พตท.43) มีอ านาจหน้าที่ในการ
                              ปราบปรามการ ก่อกำรร้ำยทุกรูปแบบ และให้กระทรวงมหำดไทย จัดตั้งศูนย์อ ำนวยกำร



                                                             35
   43   44   45   46   47   48   49   50   51   52   53