Page 37 - b29420_Fulltext
P. 37

ด้าน William A. Galston (2004) ได้ชี้ให้เห็นถึงวิกฤติการมีส่วนร่วมทางการเมืองของวัยรุ่นชาว

               อเมริกันไว้ในทำนองเดียวกันว่า คนหนุ่มสาวชาวอเมริกันในปัจจุบันมีส่วนร่วมทางการเมืองน้อยลง โดยเหตุผล

               สำคัญประการหนึ่งก็คือพวกเขามีข้อมูลเกี่ยวกับความสำคัญของการเมืองกับการพัฒนาคุณภาพชีวิตและความ

               เป็นอยู่ของพวกเขาน้อยไป จึงไม่เข้าใจถึงความสำคัญบทบาทของรัฐบาลและไม่เข้าใจถึงบทบาทของพวกเขาใน

               ฐานะพลเมืองที่จะเข้าไปมีส่วนร่วมจัดการเรื่องราวต่างๆเพื่อเสริมการทำงานของรัฐหรือแบ่งเบาภาระของรัฐลง

               ไป คนกลุ่มนี้ไม่เห็นถึงศักยภาพของกลุ่มในการสร้างความเปลี่ยนแปลง พวกเขามองว่าการเมืองเป็นเรื่องไกล
               ตัว ขณะที่ผู้ใหญ่ในสังคมก็ไม่สามารถถ่ายทอดความรู้ที่เป็นประโยชน์และใช้การได้ (workable civic norms)

               ให้แก่เยาวชน ปัญหาเหล่านี้ส่งผลต่อทัศนคติและพฤติกรรมของคนรุ่นใหม่ให้ขาดความสนใจทางการเมือง ซึ่ง

               Galston มองเรื่องนี้มีความสัมพันธ์กับการศึกษาสำหรับพลเมือง (civic education) เขามองว่าหลักสูตร

               การศึกษาสำหรับพลเมืองในประเทศสหรัฐอเมริกายังขาดเนื้อหาที่เป็นประโยชน์ใช้การได้จริงและขาดความ

               จริงใจจริงจังในการปฏิบัติ

                       มีงานวิจัยที่ชี้ให้เห็นว่ามีความสัมพันธ์กันระหว่างระดับการศึกษากับการตกเป็นเหยื่อของการซื้อเสียง

               อาทิงานของ Bratton, Michael and Kimenyi, Mwangi S., (2008) และ งานของ Hendra Try Ardianto

               (2020) ที่ชี้ให้เห็นว่าปัญหาการซื้อสิทธิขายเสียงส่วนหนึ่งเกิดจากความไม่ทราบถึงความสัมพันธ์ระหว่างการ

               เลือกตั้งที่ด้อยคุณภาพที่มีการซื้อสิทธิขายเสียงกับการคอรัปชันเชิงนโยบายและคุณภาพชีวิตอันตกต่ำที่จะ

               ตามมา ทำให้มีคนจำนวนไม่น้อยที่มองว่าการมอบทรัพย์สินเงินทองเป็นสินน้ำใจและเป็นเครื่องรับประกันว่า

               พวกเขาจะได้การดูแลที่ดีในอนาคต ซึ่งส่งผลให้การซื้อสิทธิขายเสียงเป็นปัญหาที่ไม่หมดไป

                       ดังนั้น การส่งเสริมการศึกษาจึงเป็นสิ่งสำคัญ เป็นจุดตั้งต้นสำหรับการส่งเสริมการเลือกตั้งสมานฉันท์

               และไม่ซื้อสิทธิขายเสียงที่ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ อย่างไรก็ตาม การศึกษาสำหรับพลเมืองนั้นมีหลากหลายรูปแบบ

               และไม่ได้จำกัดเฉพาะการศึกษาสำหรับนักเรียนและเยาวชนเท่านั้น แต่การศึกษาสำหรับพลเมืองเป็นการศึกษา

               ตลอดชีวิต (ทิพพาพร ตันติสุนทร, 2556) โดยที่พลเมืองในระบอบประชาธิปไตยก็จะมีกระบวนการส่งเสริม

               การศึกษาที่โดดเด่นภายใต้ค่านิยมเรื่องของสิทธิเสรีภาพหน้าที่ความรับผิดชอบและการมีส่วนร่วมทางการเมือง

               ส่งผลให้การส่งเสริมการศึกษาสำหรับพลเมืองประชาธิปไตยที่มีประสิทธิภาพไม่อาจดำเนินการได้เพียงผ่านการ
               อบรมในห้องเรียนแต่จำเป็นต้องมีการลงมือปฏิบัติด้วย กระบวนการส่งเสริมการเลือกตั้งสมานฉันท์และไม่ซื้อ

               สิทธิขายเสียงมีส่วนหนึ่งที่กำหนดให้เป็นการอบรมสร้างความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับความสำคัญของพลเมือง

               บทบาทการมีส่วนร่วมของพลเมือง กฎหมายเลือกตั้งและการเลือกตั้งสมานฉันท์และไม่ซื้อสิทธิขายเสียงต้องทำ

               อย่างไร การศึกษาแนวคิดเรื่องการศึกษาสำหรับพลเมืองจึงมีส่วนสำคัญที่จะช่วยชี้ให้เห็นว่าการศึกษาสำหรับ

               พลเมืองผ่านกระบวนการเลือกตั้งสมานฉันท์และไม่ซื้อสิทธิขายเสียงนั้น สอดคล้องกับทฤษฎีการเรียนรู้หรือไม่
               มีส่วนใดที่เหมือน แตกต่าง หรือขาดหายไปและจะส่งเสริมให้กระบวนการดังกล่าวมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นได้

               อย่างไร






                                                                                                       27
   32   33   34   35   36   37   38   39   40   41   42