Page 128 - b29420_Fulltext
P. 128

100 ขณะที่ พื้นที่ข้างเคียงที่ไม่ได้เข้าร่วมโครงการมีค่าเฉลี่ยความรู้ของกลุ่มตัวอย่างที่ได้คะแนนผ่านเกณฑ์ร้อยละ

               70  โดยรวมอยู่ที่ร้อยละ 7 เท่านั้น โดยพื้นที่ที่ได้คะแนนความรู้ผ่านเกณฑ์สูงที่สุดอยู่ที่ร้อยละ 20
                       จากเกณฑ์การประเมินความสำเร็จในระดับพื้นที่ที่ผู้วิจัยกำหนดไว้ 3 ระดับคือ ผลการศึกษาพบว่าพื้นที่ที่

               ประสบความสำเร็จระดับ มาก ปานกลาง และ น้อย ซึ่งจะพิจารณาจากความเปลี่ยนแปลง 4 เรื่อง ประกอบด้วย

               สัดส่วนกลุ่มตัวอย่างที่มีความรู้ความเข้าใจเรื่องการเลือกตั้งสมานฉันท์และไม่ซื้อสิทธิขายเสียง ความตระหนักใน
               ศักยภาพซึ่งสะท้อนผ่านจำนวนผู้สมัครหน้าใหม่ที่เพิ่มมากขึ้น และบรรยากาศการเลือกตั้งที่เปลี่ยนแปลงมีการรับรู้

               เรื่องการซื้อเสียงลดลง และมีการหาเสียงที่สร้างสรรค์อันนำมาสู่ความสมานฉันท์ภายหลังการเลือกตั้ง โดย
               ความสำเร็จแต่ละระดับมีสัดส่วนที่แตกต่างกันในรายละเอียดดังนี้

                       พื้นที่ที่มีการเปลี่ยนแปลงระดับมาก ในที่นี้คือพื้นที่ที่มีความเปลี่ยนแปลง ดังต่อไปนี้

                          •  ร้อยละ 50 ของกลุ่มตัวอย่างผู้มีสิทธิเลือกตั้งในชุมชน มีคะแนนความรู้ผ่านเกณฑ์

                          •  กลุ่มตัวอย่างรับรู้ถึงการหาเสียงว่าโจมตีกันลดลง มีความสมานฉันท์ภายหลังการเลือกตั้ง

                          •  กลุ่มตัวอย่างรับรู้ถึงระดับการซื้อเสียงที่ลดลง

                          •  มีผู้สมัครหน้าใหม่เพิ่มขึ้น
                       พื้นที่ที่มีการเปลี่ยนแปลงระดับปานกลาง ในที่นี้คือพื้นที่ที่มีความเปลี่ยนแปลง ดังต่อไปนี้


                          •  ร้อยละ 30 ของกลุ่มตัวอย่างผู้มีสิทธิเลือกตั้งในชุมชน มีคะแนนความรู้ผ่านเกณฑ์

                          •  กลุ่มตัวอย่างรับรู้ถึงการหาเสียงว่าโจมตีกันลดลง มีความสมานฉันท์ภายหลังการเลือกตั้ง

                          •  กลุ่มตัวอย่างรับรู้ถึงระดับการซื้อเสียงที่ลดลง
                       พื้นที่ที่มีการเปลี่ยนแปลงระดับน้อย ในที่นี้คือพื้นที่ที่มีความเปลี่ยนแปลงทั้ง ดังต่อไปนี้

                          •  กลุ่มตัวอย่างผู้มีสิทธิเลือกตั้งในชุมชน น้อยกว่าร้อยละ 30 มีคะแนนความรู้ผ่านเกณฑ์


                       ผลการศึกษาพบว่าพื้นที่ที่ประสบความสำเร็จในระดับมาก กลุ่มตัวอย่างจะมีความเปลี่ยนแปลงด้าน

               ความรู้และความตระหนักสูง โดยความรู้ความเข้าใจเรื่องการเลือกตั้งสมานฉันท์และไม่ซื้อสิทธิขายเสียงจะนำไปสู่

               การปรับเปลี่ยนทัศนคติและพฤติกรรม ตลอดจนบรรยากาศการเลือกตั้งในด้านบวกของพื้นที่ดังกล่าวในระดับที่สูง
               กว่าพื้นที่ที่กลุ่มตัวอย่างมีความเปลี่ยนแปลงด้านความรู้ระดับปานกลางและน้อยอย่างมีนัยสำคัญ จากเกณฑ์การ

               ประเมินสำเร็จที่กำหนดไว้ข้างต้น สรุปได้ว่า การดำเนินโครงการเลือกตั้งสมานฉันท์และไม่ซื้อสิทธิขายเสียง ใน จ.

               ร้อยเอ็ด ระหว่างปี 2560-2564 มีพื้นที่ที่มีความเปลี่ยนแปลงระดับมาก จำนวน 3 แห่ง มีพื้นที่ที่มีความ
               เปลี่ยนแปลงระดับปานกลางจำนวน 2 แห่ง ที่เหลือเป็นพื้นที่ที่มีความเปลี่ยนแปลงในระดับน้อยจำนวน 12 แห่ง

                       ความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นแสดงให้เห็นว่า ‘ความรู้’ เกี่ยวกับการเลือกตั้งสมานฉันท์และไม่ซื้อสิทธิขาย

               เสียงเป็นเงื่อนไขตั้งต้นสำคัญที่จะนำไปสู่ความเปลี่ยนแปลงด้านอื่นๆภายใต้การส่งเสริมการเลือกตั้งสมานฉันท์และ




                                                                                                          114
   123   124   125   126   127   128   129   130   131   132   133