Page 100 - b29420_Fulltext
P. 100

เรื่องที่แตกต่างออกไปจากตัวกรอบแนวคิดและยังไม่ครบถ้วนครอบคลุมทฤษฎีในทุกมิติ ขณะที่ในชุมชนเองก็ยังมี

               ความเชื่อและวัฒนธรรมบางเรื่องที่ไม่สอดคล้องกับแนวทางประชาธิปไตยที่ส่งผลต่อความสำเร็จของโครงการ

               ทั้งยังมีลักษณะอุปถัมภ์นิยมอย่างมาก สุดท้าย เป็นเรื่องของประโยชน์และกลุ่มผลประโยชน์ในชุมชนที่ส่งผลต่อการ

               ตัดสินใจเลือกผู้แทนของคนในชุมชน

                       กล่าวโดยสรุปคือ มีเงื่อนไขปัจจัยอย่างน้อย 3 เรื่องที่ส่งผลต่อความสำเร็จของการดำเนินโครงการเลือกตั้ง

               สมานฉันท์และไม่ซื้อสิทธิขายเสียง ประกอบด้วย 1) เงื่อนไขด้านแกนนำและผู้เกี่ยวข้อง (actors) 2) เงื่อนไขด้าน

               กระบวนการส่งเสริมการเลือกตั้งสมานฉันท์และไม่ซื้อสิทธิขายเสียง (process) และ 3) เงื่อนไขด้านวัฒนธรรมและ

               ผลประโยชน์ (interest & culture) โดยมีรายละเอียดดังนี้


                       1)  เงื่อนไขด้านแกนนำและผู้เกี่ยวข้อง (actors)


                       จากผลการศึกษาชี้ให้เห็นว่าปัจจัยด้านแกนนำ คือเงื่อนไขสำคัญอย่างยิ่งต่อการก่อเกิดและขับเคลื่อน
               โครงการ อย่างไรก็ตาม ผลการศึกษาที่ผ่านมาชี้ให้เห็นข้อจำกัดบางประการที่เกิดขึ้นกับแกนนำ ประการแรก เป็น

               เรื่องความรู้ของแกนนำ แม้ผลการศึกษาจะชี้ให้เห็นว่าแกนนำระดับโครงการมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการ

               เลือกตั้งสมานฉันท์และไม่ซื้อสิทธิขายเสียง ทว่าสิ่งที่พบกลับกลายเป็นการที่แกนนำเลือกนำเสนอโครงการโดยเน้น

               ไปที่ความ ‘ขัดแย้ง’ ทำให้มุ่งเน้นไปที่การ ‘ไม่แข่งขัน’ ในฐานะกลไกที่จะลดความขัดแย้งในชุมชนลงไปได้ โดยที่

               ไม่ได้เน้นการอธิบายทฤษฎีเพื่อเชื่อมโยงให้เห็นถึงความสัมพันธ์ระหว่างการเลือกตั้งกับประชาธิปไตยมากนัก ส่งผล
               ให้ผู้เกี่ยวข้องฝ่ายต่างๆมีจุดเน้นที่ไม่ครอบคลุมเรื่องการเลือกตั้งสมานฉันท์และไม่ซื้อสิทธิขายเสียงที่ต้องการเน้น

               เรื่องการ ‘แข่งขัน’ กันหาเสียงสร้างอย่างสร้างสรรค์ ทำประโยชน์แก่ชุมชน ไม่ได้ปฏิเสธการแข่งขัน และต้องการ

               เสริมอำนาจการต่อรองให้แก่ผู้มีสิทธิเลือกตั้งผ่านกิจกรรมต่างๆให้แก่ผู้มีสิทธิเลือกตั้งได้มีส่วนร่วมในช่วงของการ

               เลือกตั้ง


                       การที่แกนนำเลือกหยิบยกเรื่องความขัดแย้งมากล่าวถึง จึงทำให้การอธิบายมุ่งนำเสนอไปที่การสร้างความ

               สมานฉันท์ในชุมชน การไม่ซื้อสิทธิขายเสียง โดยมีการตีความให้สอดคล้องกับบริบทของชุมชน อาทิ ความ
               สมานฉันท์ในชุมชนคือการพูดคุยกันก่อนที่ผู้นำชุมชนคนเก่าจะหมดวาระ เพื่อเชิญให้ผู้ที่คาดว่าจะลงสมัครรับ

               เลือกตั้งในครั้งถัดไปมาพูดคุยกัน มีความพยายามสร้างข้อตกลงร่วมกันระหว่างผู้สมัคร โดยข้อตกลงแรกที่ชุมชน

               ส่วนใหญ่สนับสนุนมากที่สุดเมื่อกล่าวถึง ‘ความสมานฉันท์’ ก็คือข้อเสนอเรื่องการไม่มีการแข่งขัน เพื่อลดการ

               เผชิญหน้าและการลงทุนทางการเมืองที่มากจนเกินไป และข้อเสนอถัดไปหากไม่สามารถทำข้อตกลงร่วมกันในการ

               ไม่แข่งขันกันได้ก็คือ การไม่ ‘แจกเงิน’ เพื่อแลกกับคะแนนเสียง โดยข้อเสนอสุดท้ายคือขอร้องไม่ให้ผู้สมัครทะเลาะ
               กัน ขอให้ทุกฝ่ายพร้อมที่จะให้ความร่วมมือในการทำงานเพื่อชุมชนต่อไปแม้ภายหลังการเลือกตั้ง




                                                                                                           87
   95   96   97   98   99   100   101   102   103   104   105