Page 95 - b29420_Fulltext
P. 95
อย่างไรก็ตาม ท่ามกลางความพยายามรณรงค์การเลือกตั้งสมานฉันท์และไม่ซื้อสิทธิขายเสียงอย่างต่อเนื่อง
สิ่งที่ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้คือความไม่เห็นด้วยของคนบางกลุ่ม ซึ่งแม้จะมีความพยายามรณรงค์เช่นใดแต่คนกลุ่มนี้ก็ยัง
ไม่เปลี่ยนความคิด แต่เพื่อให้การดำเนินโครงการเดินหน้าต่อไปได้ เทคนิคที่แกนนำพลเมืองเลือกนำมาใช้ก็คือการ
อ้างถึงบทลงโทษ “แรกๆก็ต้อง ‘ขู่’ แรงหน่อย เพราะอยากให้มาร่วมกิจกรรมกันทุกหมู่ที่เราทำ”
ผลที่เกิดขึ้น
จากความพยายาในการแนะนำการเลือกตั้งสมานฉันท์และไม่ซื้อสิทธิขายเสียงให้แก่คนในพื้นที่ ทั้งผู้นำ
ชุมชน ผู้สมัคร ผู้มีสิทธิเลือกตั้ง ตลอดจนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้รับทราบและเข้าใจการเลือกตั้งสมานฉันท์อย่าง
ถูกต้อง รวมไปถึงความพยายามในการขับเคลื่อนกิจกรรมต่างๆเพื่อส่งเสริมการเลือกตั้งสมานฉันท์และไม่ซื้อสิทธิ
ขายเสียงให้เกิดขึ้นได้ในพื้นที่อย่างเป็นรูปธรรม ความพยายามเหล่านี้ของแกนนำและความร่วมแรงร่วมใจของคน
ในชุมชนทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องส่งผลให้พื้นที่นำร่องในตำบลสว่างแห่งแรกเกิดความเปลี่ยนแปลงเป็นที่ประจักษ์กระทั่ง
ก่อเกิดเป็นแรงบันดาลใจในการขับเคลื่อนการเลือกตั้งสมานฉันท์และไม่ซื้อสิทธิขายเสียงให้แก่กลุ่มแกนนำ ผู้นำ
คนในชุมชน และชุมชนข้างเคียง โดยความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นมีหลายประการ ยกตัวอย่างเช่น ค่าใช้จ่ายในการ
หาเสียงลดลง ชุมชนสมานฉันท์ภายหลังการเลือกตั้ง ได้ผู้นำที่ดีมีความรู้ความสามารถอย่างแท้จริง และคนใน
ชุมชนได้มีส่วนร่วมได้พัฒนาตนเองและพัฒนาประชาธิปไตยในชุมชน
แกนนำพลเมืองรายหนึ่งกล่าวถึงความเปลี่ยนแปลงในพื้นที่ว่า “ปรากฏว่าครั้งแรกที่ทำที่หมู่ .... เงินจากที่
เขาเคยใช้กันสี่แสน ห้าแสน ก็ลดเหลือแสนหนึ่ง ก็เลยทำให้อีกหมู่ข้างๆ ที่เข้าร่วมกิจกรรมด้วยตอนนั้น เห็นว่าเออ
หมู่ ... ทำแล้วดี ทำแล้วได้ผล หมู่อื่นมาทีหลังก็เลยว่าดี ก็มาขอให้เราไปให้ความรู้ อยากทำบ้าง”
ขณะที่แกนนำพลเมืองอำเภอโพนทองอีกรายหนึ่งกล่าวเสริมว่า “เราก็พยายามห้าม พยายมขู่ แต่เอาเข้า
จริงเขาก็มีวิธีการของเขา อย่างขอกินเหล้าคนละขวด มันก็ยังมี แต่อย่างที่ซื้อกันโจ่งแจ้งแบบแต่ก่อนไม่มี การพนัน
ขันต่อไม่มี ในวันเลือกตั้งว่า เบอร์นั้นจะชนะเบอร์นี้ ก็เงียบกริบเลย”
ด้านผู้นำชุมชนที่เข้าร่วมโครงการกล่าวถึงโครงการเลือกตั้งสมานฉันท์และไม่ซื้อสิทธิขายเสียงว่า
“โครงการนี้ดีมากเลยนะ แต่ก่อนนี่ผู้สมัครจะไม่คุยกันเลย พอรู้ว่าจะมีการเลือกตั้งก็แข่งกันเลย กองเชียร์ใคร
กองเชียร์มัน แล้วพอลงสมัครก็ขึ้นสังเวียนแล้วก็ต้องชก บาดเจ็บกันไป แต่ก่อนก็เจ็บเยอะมากๆเลย บางคนมีที่นาก็
ขายที่ขายทางขายรถขายทุกอย่าง ไม่พอก็ไปกู้เขาเพิ่มอีกทำให้ติดหนี้ เพราะไม่อยากแพ้ แต่พอชนะมา เงินเดือนก็
ไม่เท่าไหร่ ภาษีสังคมอีก มันไม่คุ้มกันหรอก ก็พยายามชี้ให้เขาเห็นในจุดนี้ สุดท้ายเขาก็เข้าใจนะ ก็ตกลงกันว่าไม่ใช้
เงินได้ไหม หาเสียงอะไรนี่ได้ แต่ไม่แจกนะ ก็ตกลงกันแบบนี้แข่งกันได้แต่ไม่แจกนะ เราไปถามเขาตอนท้ายนะว่า
82