Page 60 - เอกสารประกอบการประชุมวิชาการ ครั้งที่ 23
P. 60
การประชุมวิชาการ
สถาบันพระปกเกล้า ครั้งที่ 23
ประชาธิปไตยในภูมิทัศน์ใหม่
เช่น เราเคยมี “ฤดูใบไม้ผลิ” (Political Spring) ที่กรุงเทพฯ หรือเกิด “กรุงเทพฯ สปริง” (The
Bangkok Spring) ถึง 2 ครั้งในปี 2516 และ 2535 แต่ก็เป็นฤดูใบไม้ผลิที่ไม่ยั่งยืน เงื่อนไข
เช่นนี้ทำให้ฝ่ายประชาธิปไตยไทยจะต้องคิดถึงเรื่องการเปลี่ยนผ่านมากกว่าในการคิดแบบ
ดั้งเดิม ที่เป็นแบบ “Conventional thinking” คือ เชื่อว่าเปลี่ยนผ่านครั้งเดียวแล้วจะทำให้
การเมืองไทยเป็นประชาธิปไตยได้เลย
19) ปรากฏการณ์นี้ตอบในเชิงทฤษฎีว่า การเปลี่ยนผ่านที่เกิดในการเมืองไทย
ไม่สามารถเดินไปสู่จดสุดท้ายที่ประชาธิปไตยกลายเป็นกติกาหลักของการแข่งขันทางการเมือง
(สภาวะเช่นนี้ในทางทฤษฎีเรียกว่า “Transition without Consolidation”) คือเป็นการเปลี่ยนผ่าน
ที่หยุดนิ่ง ไม่ก้าวสู่ความเป็นประชาธิปไตยเต็มรูป จนอาจทำให้การเปลี่ยนผ่านที่เกิดนั้นล้มลง
ได้ด้วยการกลับคืนมาของระบอบเผด็จการ ข้อพิจารณาเช่นนี้ทำให้การเปลี่ยนผ่านในอนาคต
อาจต้องคิดในแบบ “ไตรภาค” เพราะการเปลี่ยนผ่านแบบจังหวะเดียว (ม้วนเดียว) ไม่เพียงพอ
ที่จะพาประเทศออกจากระบอบอำนาจนิยมได้จริง เพราะอำนาจของฝ่ายต่อต้านประชาธิปไตย
นั้น ฝังรากลึกลงอย่างมากในสังคมการเมืองไทย
20) การเปลี่ยนผ่านแบบสามจังหวะเช่นนี้ จะช่วยให้ขบวนประชาธิปไตยสามารถกำหนด
“จังหวะก้าว” และ “ยุทธศาสตร์ประชาธิปไตย” เพื่อช่วยในการลดทอนอิทธิพลของฝ่าย
อนุรักษนิยม-เสนานิยม ดังนี้
- การ “เปลี่ยนผ่านภาคที่ 1” เป็นการดำเนินการเพื่อลดทอนอิทธิพลของระบอบ
เดิมที่ออกแบบโครงสร้างให้การเมืองหลังเลือกตั้งเป็นกึ่งอำนาจนิยม หรือ
เป็นขั้นตอนที่จะต้องลดและ/หรือทำลายอิทธิพลของระบอบอนุรักษนิยม
และเสนานิยม หรืออีกนัยหนึ่งคือ การพาการเมืองออกจากระบอบพันทาง
ด้วยการเปลี่ยนผ่านที่ทำให้เกิดความเป็นเสรีนิยม (ขั้นตอนของ Liberalization)
- การ “เปลี่ยนผ่านภาคที่ 2” คือ การพาระบอบการเมืองก้าวสู่ความเป็น
ประชาธิปไตยเสรีนิยม เพื่อให้ระบอบประชาธิปไตยเป็นกลไกหลักทางการเมือง
พร้อมทั้งการสร้างกติกา/กฎเกณฑ์ของประชาธิปไตย (ขั้นตอนของ
Democratization)
- การ “เปลี่ยนผ่านภาคที่ 3” คือ การขับเคลื่อนเพื่อทำให้ระบอบประชาธิปไตย
มีความเข้มแข็ง อันเป็นความคาดหวังว่า ประชาธิปไตยจะเป็นกติกาเดียวใน
การแข่งขันทางการเมืองของประเทศ (ขั้นตอนของ Democratic Consolidation) การแสดงปาฐกถานำ
โลกของอนุรักษนิยมไทย
21) การต่อสู้ที่ทวีความเข้มข้นมากขึ้นระหว่างอุดมการณ์ 2 ชุดดังที่กล่าวแล้วในข้างต้น
อาจทำให้การแข่งขันที่เกิดขึ้นกลายเป็น “เกมที่มีผลรวมเป็นศูนย์” (the zero-sum game)
และหากฝ่ายอนุรักษนิยมพ่ายแพ้ในการต่อสู้เช่นนี้ พวกเขาก็พร้อมที่ใช้พลังเสนานิยมเพื่อ