Page 61 - เอกสารประกอบการประชุมวิชาการ ครั้งที่ 23
P. 61

0    การประชุมวิชาการ
                สถาบันพระปกเกล้า ครั้งที่ 23
              ประชาธิปไตยในภูมิทัศน์ใหม่

               เปลี่ยนแปลง เพราะพวกเขามองว่าความพ่ายแพ้จะเป็นการสูญเสียทุกอย่างของฝ่ายขวา

               ดังปรากฏให้เห็นเสมอจากประวัติศาสตร์การเมืองไทยที่จะต้องก่อกระแสตีกลับ

                     22) ข้อสังเกตของการเมืองไทยในภาวะปัจจุบันคือ ฝ่ายอนุรักษนิยมไทยมักจะ
               หลอมรวมตัวเองเข้ากับฝ่ายเสนานิยม อันเป็นระบบพันธมิตรที่เกิดขึ้นมาอย่างยาวนาน
               (อย่างน้อยตั้งแต่การก่อการรัฐประหารในปี 2490) และในการเมืองปัจจุบัน ยังเห็นถึงแนวโน้ม

               สำคัญที่ฝ่ายอนุรักษนิยมไทยยิ่งนานวัน ยิ่งทวีความเป็น “จารีตนิยม” อย่างเห็นได้ชัด หรือ
               อาจกล่าวในทางทฤษฎีได้ว่า ยิ่งนานวันฝ่ายอนุรักษนิยมยิ่งทวีความเป็น “ขวาจัด” มากกว่า
               จะเป็นในแบบ “อนุรักษนิยมเสรี” (Liberal Conservative) ซึ่งภาวะเช่นนี้จะเป็นปัญหาสำคัญ
               ต่อกระบวนการสร้างประชาธิปไตยไทยทั้งในระยะสั้นและระยะยาว เพราะยิ่งฝ่ายอนุรักษนิยม

               มีความเป็นขวาจัดมากเท่าใด การสร้างประชาธิปไตยก็ยิ่งมีความเปราะบางมากเท่านั้น และ
               จะยิ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่จะยิ่งดึงเอาฝ่ายทหารให้เข้ามามีบทบาททางการเมือง เพื่อที่จะเป็น
               การค้ำจุนต่อการคงอำนาจของฝ่ายอนุรักษนิยมในสังคมไทย


                     23) แนวโน้มอีกประการหนึ่งที่สำคัญของฝ่ายอนุรักษนิยมไทยคือ การผนึกกำลังกับ
               ฝ่ายทุนนิยม ที่เติบโตและขยายตัวมาอย่างต่อเนื่อง จนต้องยอมรับว่า “กลุ่มทุนใหญ่” เป็น
               พลังใหม่ของการขับเคลื่อนการเมืองไทย และแน่นอนว่ากลุ่มทุนใหญ่ได้กลายเป็นพันธมิตร
               ที่สำคัญอีกส่วนของฝ่ายอนุรักษนิยม อันส่งผลให้ปีกขวาไทยในปัจจุบันมีความเข้มแข็งมากขึ้น
               กลุ่มนายทุนไม่ชอบการเมืองปีกซ้ายเช่นไร พวกเขาก็ไม่ชอบปีกประชาธิปไตยเช่นนั้น

               โดยเฉพาะปีกทุนมักจะมีทัศนะเสมอว่า การเมืองแบบประชาธิปไตยจะเป็นการ “เปิดประตู”
               ให้กับชนชั้นล่าง และชนชั้นกลางปีกซ้ายเข้ามามีบทบาททางการเมืองมากขึ้น จนอาจกลาย
               เป็นการคุกคามต่อผลประโยชน์ของชนชั้นนายทุนได้ ทั้งมองในแบบดั้งเดิมว่า กลุ่มอนุรักษนิยม

               จะเป็นผู้ปกป้องผลประโยชน์ของตน และจะเป็นผู้ขัดขวางการมาของ “การเมืองแบบมวลชน”
               (Mass Politics)

                     24) ผลที่เกิดขึ้นในสถานการณ์ปัจจุบันคือ การสนธิกำลัง 4 ฝ่าย คือ “อนุรักษนิยม-
               จารีตนิยม-ทุนนิยม-เสนานิยม” โดยสร้างพลังอำนาจผ่าน “เสนาธิปไตย+ตุลาการธิปไตย”

               จึงอาจเปรียบเทียบได้ว่า การสนธิกำลังครั้งนี้คือ การสร้าง “บ้านสี่เสา” ของฝ่ายขวาไทย
         การแสดงปาฐกถานำ   “จตุภาคี” ของปีกขวาไทย
               และมี “สองคาน” เป็นเครื่องแบกรับโครงสร้างของบ้านนี้ หรืออาจเรียกพลังทั้งสี่ส่วนนี้ว่าเป็น


                     25) แต่กระนั้นพวกเขาควรต้องตระหนักเสมอว่า กระแสของ “จตุภาคี” ที่ฝ่าย

               อนุรักษนิยมใช้เป็นพลังในการขับเคลื่อนสังคมนั้น ก็ถูกท้าทายจากพลวัตรของโลก ที่ความ
               เปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในด้านต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นกระแสโลกาภิวัตน์ ปัจจัยทางเทคโนโลยีและ
               โลกออนไลน์ ปัจจัยของชีวิตทางสังคมของคนรุ่นใหม่ ตลอดรวมถึงกระแสความเชื่อ/
               ชุดความคิดที่แตกต่างไปจาก “วัตรปฏิบัติ” ของฝ่ายขวา อีกทั้งปัญหาความแตกต่างของ

               โจทย์สงครามและความมั่นคง จนอาจจะต้องถือว่าพลวัตรจากปัจจัยเหล่านี้กำลังทำหน้าที่
   56   57   58   59   60   61   62   63   64   65   66