Page 89 - 23464_Full text
P. 89

88



                   บัตรใบเดียว เหลือ 18 พรรคในการเลือกตั้งครั้งนี้ ท าให้การจัดตั้งรัฐบาลผสมไม่ต้องใช้จ านวนพรรค
                   มากถึง 20 พรรคดังที่เกิดขึ้นภายใต้การจัดตั้งรัฐบาลประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่น าโดยพรรคพลังประชารัฐ

                   ซึ่งจะช่วยลดความอ่อนแอและความขัดแย้งในการท างานของพรรคร่วมรัฐบาลอันเกิดจากอ านาจ
                   ต่อรองของพรรคขนาดกลางและพรรคขนาดเล็ก

                          ปรากฏการณ์ที่น่าสนใจที่เกิดขึ้นในการเลือกตั้งปี 2566 คือ ไม่มีพรรคใดชนะการเลือกตั้ง
                   พรรคเดียวแบบเด็ดขาด แต่มีพรรคการเมือง 2 พรรคที่ประกาศแนวทางต่อสาธารณะว่าอยู่ในขั้ว
                   การเมืองเดียวกันชนะการเลือกตั้งมาเป็นอันดับ 1 และ 2 มีจ านวนที่นั่งไม่ห่างกันมากนัก คือ

                   พรรคก้าวไกลและพรรคเพื่อไทยที่มีที่นั่งห่างกัน 10 ที่นั่ง คือ 151 และ 141 โดยได้จ านวน ส.ส. เขต
                   เท่ากัน คือ 112 ที่นั่ง แต่คะแนนบัญชีรายชื่อห่างกัน 3,476,329 คะแนน (ก้าวไกลได้ 14,438,851
                   คะแนน เพื่อไทยได้ 10,962,522 คะแนน) ท าให้มีจ านวนที่นั่งส.ส. บัญชีรายชื่อต่างกัน 10 ที่นั่ง
                   ผลการเลือกตั้งเช่นนี้ท าให้การจัดตั้งรัฐบาลผสมร่วมกันของพรรคอันดับหนึ่งและสองน าไปสู่สภาวะ

                   อ านาจคู่ (dual power) คือ พรรคอันดับที่หนึ่งและสองมีอ านาจในการก าหนดรูปแบบและวาระทาง
                   นโยบายของรัฐบาลค่อนข้างทัดเทียมกัน แม้ว่าพรรคอันดับที่หนึ่งจะมีความชอบธรรมในการน า
                   การจัดตั้งรัฐบาล แต่ความเป็นจริงทางการเมืองของสภาวะอ านาจคู่จะท าให้การบริหารงานรวมถึง

                   เสถียรภาพของรัฐบาลมิได้เป็นไปโดยง่ายเพราะมิใช่ภาวการณ์น าเดี่ยว ปัจจัยที่ก าหนดความเข้มแข็ง
                   และเสถียรภาพของรัฐบาลจะขึ้นอยู่กับความสัมพันธ์ระหว่างพรรคอันดับที่หนึ่งและพรรคอันดับที่สอง
                   เป็นส าคัญ การจัดตั้งรัฐบาลในลักษณะอ านาจคู่นี้เป็นเรื่องปรกติในสังคมการเมืองแบบประชาธิปไตย
                   รัฐสภาทั่วโลก เพียงแต่เป็นปรากฏการณ์ใหม่ของสังคมไทย ในหลายประเทศ การจัดตั้งรัฐบาลร่วมกัน
                   ระหว่างพรรคใหญ่สองอันดับแรก (ซึ่งมักจะเรียกว่า grand coalition) ไม่ใช่เรื่องผิดปรกติและ

                   หากรักษาความสัมพันธ์ในการท างานร่วมกันระหว่างสองพรรคได้ดี รัฐบาลก็สามารถรักษาเสถียรภาพ
                   จนครบวาระได้ แต่ถ้าหากสองพรรคใหญ่เกิดความขัดแย้งตึงเครียดในการบริหารงานร่วมกัน ไม่ว่าจะ
                   ในเรื่องการจัดสรรต าแหน่งทางการเมือง การก าหนดนโยบายที่รัฐบาลจะผลักดัน และการสื่อสารกับ

                                                                                            89
                   ฐานเสียงของแต่ละพรรคก็จะท าให้รัฐบาลผสมที่น าโดยสองพรรคใหญ่สามารถล่มสลายได้
                          ฉะนั้น ในขณะที่ระบบเลือกตั้งแบบจัดสรรปันส่วนผสมในปี 2562 ได้ท าให้การเมืองย้อนกลับ

                   ไปสู่สภาพก่อนปี 2540 คือการมีรัฐบาลผสมที่ประกอบด้วยพรรคการเมืองจ านวนมากแบบกระจัด
                   กระจาย ดังที่พบว่ารัฐบาลประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่มีพรรคพลังประชารัฐเป็นแกนน านั้นต้องจัดตั้ง
                   รัฐบาลผสม 20 พรรค แต่มีเสียง ส.ส. รวมกันคิดเป็นเพียงร้อยละ 50.8 ของสภา (ดูตารางที่ 11)

                   ซึ่งภาวะรัฐบาลปริ่มน้ าดังกล่าวท าให้พรรคร่วมรัฐบาลมีอ านาจต่อรองสูงในการแย่งชิงโควตาต าแหน่ง
                   รัฐมนตรีกระทรวงส าคัญจากพรรคพลังประชารัฐที่ชนะเลือกตั้งมาเป็นอันดับ 2 และมีที่นั่งเพียง
                   ร้อยละ 23.2 ของสภา ท าให้การด าเนินนโยบายขาดความเป็นเอกภาพ นอกจากนั้นการครองอ านาจ
                   ของรัฐบาลยังต้องอาศัยเสียงของ ส.ส.พรรคขนาดเล็กด้วยเพื่อความอยู่รอด จนท าให้เกิดปรากฏการณ์






                   89  Wolfgang C. Müller and Kaare Strøm (eds), Coalition Governments in Western Europe (Oxford:
                   Oxford  University  Press,  2003) ;  Silvia  Bolgherini  and  Florian  Grotz,  Germany  after  the  Grand
                   Coalition: Governance and Politics in a Turbulent Environment (New York: Palgrave Macmillan,
                   2010); Wade Jacoby, “Grand Coalitions and Democratic Dysfunction: Two Warnings from Central
                   Europe,” Government and Opposition, 52: 2 (2017): 329-355.
   84   85   86   87   88   89   90   91   92   93   94