Page 11 - 23464_Full text
P. 11

10



                   วิธีการวิจัย

                          งานวิจัยนี้เป็นงานวิจัยเชิงคุณภาพ ในแง่การรวบรวมข้อมูล งานวิจัยนี้มุ่งใช้ข้อมูลจากเอกสาร
                   หลากหลายประเภทที่เกี่ยวข้อง ทั้งรัฐธรรมนูญ ร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ บันทึกการประชุมของ
                   คณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ บันทึกการประชุมรัฐสภา ผลการเลือกตั้ง บทความและหนังสือ
                   ทางวิชาการ จากนั้นจะน าข้อมูลมาวิเคราะห์ด้วยกรอบแนวคิดทฤษฎีเกี่ยวกับการออกแบบสถาบัน

                   ทางการเมืองและระบบเลือกตั้งเพื่ออธิบายผลกระทบของการเปลี่ยนระบบเลือกตั้งที่มีต่อระบบ
                   การเมืองและโครงสร้างทางการเมือง



                   ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ

                          1. ได้ทราบผลกระทบทางการเมืองของการเปลี่ยนแปลงกฎหมายเลือกตั้ง ทั้งในลักษณะของ
                   การเมืองภาคประชาสังคม และในกระบวนการนิติบัญญัติ ที่เกี่ยวข้องกับพระราชบัญญัติประกอบ
                   รัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. 2561 ซึ่งจะส่งผลต่อ
                   การเลือกตั้งใน พ.ศ. 2566 ว่ามีการเปลี่ยนแปลงอย่างไร และจะส่งผลต่อโครงสร้างทางการเมือง

                   ระบบพรรคการเมือง และความขัดแย้งทางการเมืองอย่างไร

                          2. ได้เข้าใจปัญหาความขัดแย้งในการเมืองไทยและหนทางในการปฏิรูปการเมืองไทย ที่เกี่ยวโยง
                   กับกระบวนการเลือกตั้งและกติกาการเลือกตั้งในประเทศไทย

                          3. สามารถน าประเด็นส าคัญไปจัดท าเป็นเอกสาร (Fact Sheet) หรือ คลิปประกอบการเรียน
                   การสอน ในหลักสูตรต่างๆ ของสถาบันพระปกเกล้า หรือการเรียนการสอนทั้งในและนอกระบบ
                   การศึกษาทั่วไป




                   แนวคิดและทฤษฎี: การออกแบบสถาบันการเมืองและระบบเลือกตั้ง
                          เหตุใดเราจึงต้องให้ความสนใจกับสถาบันการเมือง? ค าตอบคือ สถาบันการเมืองมี
                   ความส าคัญและศักยภาพในการส่งผลกระทบต่อประชาธิปไตย ประสิทธิภาพการท างาน และความ

                   ขัดแย้งและความมั่นคงปลอดภัยของพลเมือง โดยผลกระทบที่ว่าอาจจะมีทั้งในด้านบวกและด้านลบ
                   ผลกระทบด้านลบเกิดขึ้นเมื่อสถาบันทางการเมืองถูกจัดวางและถูกก าหนดให้มีขอบเขตอ านาจ
                   ที่ไม่เหมาะสมซึ่งส่งผลให้เกิดการท างานที่ไม่มีประสิทธิภาพและไม่ตอบสนองต่อความหนักหน่วงของ
                   ปัญหาที่เกิดขึ้นในระบบ ซ้ ายังอาจไปซ้ าเติมหรือขยายความขัดแย้งที่ด ารงอยู่ให้หนักหนาสาหัสมากขึ้น

                   ในทางตรงกันข้าม การสร้างและออกแบบสถาบันทางการเมืองอย่างเหมาะสมโดยค านึงถึงโครงสร้าง
                   ทางสังคม แบบแผนทางวัฒนธรรม และความสัมพันธ์เชิงอ านาจจะช่วยบรรเทาความขัดแย้งที่ด ารง
                   อยู่ในสังคมได้ (Horowitz 1991a, 1991b, 1997; Reynolds 1993, 2000; Lijphart 1997, 1984,
                   2004; Weaver and Rockman 1993; Elster and Slagstad 1988) สถาบันการเมืองต่างๆ

                   ในสังคมสามารถถูกออกแบบและปฏิรูปเพื่อแก้ไขวิกฤตการเมืองในสังคมได้ เนื่องจากสถาบัน
                   ทางการเมืองมีบทบาทในการก าหนดกฎเกณฑ์การด ารงอยู่ร่วมกันในสังคม มีอิทธิพลต่อการ
                   แบ่งสรรปันส่วนอ านาจในสังคม ก าหนดระเบียบแบบแผนในการเข้าถึงทรัพยากร และมีอิทธิพลต่อ
                   การตัดสินเชิงคุณค่าในประเด็นส าคัญๆ ในสังคม รูปแบบและโครงสร้างของสถาบันการเมืองที่ต่างกัน

                   ซึ่งรวมถึงระบบเลือกตั้งย่อมน าไปสู่ความได้เปรียบเสียเปรียบของคนกลุ่มต่างๆ ในสังคมแตกต่างกันไป
   6   7   8   9   10   11   12   13   14   15   16