Page 73 - 23154_Fulltext
P. 73

68


                          การปรับแก้สมดุลของความสัมพันธ์เชิงอ านาจของระบบรัฐสภาใหม่อีกครั้งใน ค.ศ. 1994 ด้วยการ

                          เสริมสัดส่วนของการเลือกตั้งสภาผู้แทนราษฎรให้มีสัดส่วนของผู้แทนเขตที่มาจากการเลือกตั้งแบบ
                          เสียงข้างมากธรรมดา (first past the post) เช่นเดียวกับการเปิดให้มีการเลือกตั้งวุฒิสมาชิก เพื่อให้
                          ตัวแทนประชาชนในรัฐสภามีความชอบธรรมอันสอดคล้องกับเจตนารมณ์ของประชาชนมากยิ่งขึ้น

                          ขณะที่ตัวแทนแบบสัดส่วนก็ยังคงมีความส าคัญกับระบบการเมืองที่ให้พื้นที่กับความเป็นพหุนิยมทาง
                          การเมือง นอกจากนั้นรัฐธรรมนูญอิตาลียังก าหนดความสัมพันธ์เชิงอ านาจให้ระบบรัฐสภามีอ านาจ

                          ในทางนิติบัญญัติให้สามารถคานอ านาจกับทางประธานาธิบดีในการผ่านและประกาศใช้กฎหมายได้
                          เช่นกัน

                       เมื่อพิจารณาความสัมพันธ์เชิงอ านาจของระบบรัฐสภาอิตาลีที่ก าหนดไว้ในรัฐธรรมนูญ ค.ศ. 1947 (แก้ไข
               เพิ่มเติม ค.ศ. 2020) จะพบว่าการก าหนดความสัมพันธ์เชิงอ านาจของระบบรัฐสภาอิตาลีมีสิ่งน่าสังเกตอย่างน้อย 2

               ส่วนส าคัญด้วยกัน ได้แก่ ส่วนแรกคือ ความเสมอกันทางอ านาจระหว่างสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภาในการท า
               หน้าที่ทางนิติบัญญัติ เนื่องจากวุฒิสภาของอิตาลีมาจากการเลือกตั้งของประชาชน จึงเกิดความสมเหตุสมผลในการ
               วางอ านาจให้เสมอกับสภาผู้แทนราษฎรที่มาจากการเลือกตั้งเช่นกัน ตลอดจนอดีตประธานาธิบดีที่ได้เป็น

               วุฒิสมาชิกโดยต าแหน่งก็สอดคล้องกับที่มาอันเชื่อมโยงกับประชาชนเช่นกัน นอกจากนั้นส่วนที่สองคือ
               ความสัมพันธ์เชิงอ านาจที่รัฐสภามีต่อประธานาธิบดี สามารถสังเกตได้ว่าอ านาจของประธานาธิบดีเป็นรองจากฝ่าย

               นิติบัญญัติอย่างระบบรัฐสภา สังเกตได้จาก อาทิ การผ่านและประกาศใช้กฎหมายของรัฐสภาสามารถกระท าได้
               หากเป็นกรณีเร่งด่วนและผ่านมติเสียงข้างมากเห็นชอบสัมบูรณ์ หรือกรณีที่เป็นกฎหมายเกี่ยวกับรัฐธรรมนูญจะ

               สามารถผ่านด้วยเสียงข้างมากพิเศษ หรือในกรณีที่ประธานาธิบดีตัดสินใจจะยุบสภา จะสามารถกระท าได้เมื่อมีการ
               ปรึกษาประธานสภาแล้วเท่านั้น นอกจากนั้นยังจ ากัดมิให้อ านาจดังกล่าวในช่วง 6 เดือนสุดท้ายก่อนหมดวาระ

               ด ารงต าแหน่งประธานาธิบดีอีกด้วย เพื่อไม่ให้เกิดการต่อรองทางการเมืองในช่วงท้ายของวาระของประธานาธิบดี
               เป็นต้น จึงสามารถกล่าวได้ว่า อ านาจของฝ่ายนิติบัญญัติของอิตาลีมีความเสมอกันเองในสองสภา และมีอ านาจ
               เหนือกว่าในการต่อรองกับประธานาธิบดีที่เป็นฝ่ายบริหาร



                       3.7 มาเลเซีย


                       พัฒนาการทางประวัติศาสตร์

                       ระบบรัฐสภาของมาเลเซียเป็นหนึ่งในกรณีศึกษาของประเทศที่ใช้ระบบสภาคู่อันมีต้นแบบมาจากระบบ

               เวสต์มินสเตอร์ (Westminster system) แบบอังกฤษ ประกอบด้วยสภาผู้แทนราษฎร (Dewan Rakyat) และ
               วุฒิสภา (Dewan Negara) นอกจากนั้น กรณีของมาเลเซียยังเป็นระบอบกษัตริย์ภายใต้รัฐธรรมนูญ ที่กษัตริย์เป็น

               ประมุข แต่ที่มาของกษัตริย์มาเลเซียจะมาจากการเลือกตั้งของกลุ่มสุลต่านชนชั้นน าของมาเลเซียโดยมีวาระทุก 5
               ปี เรียกว่า “ยังดีเปอร์ตวนอากง” (Yang di-Pertuan Agong)
   68   69   70   71   72   73   74   75   76   77   78