Page 45 - 23154_Fulltext
P. 45

40


                       ในบางกรณี เมื่อสมาชิกรัฐสภาเห็นว่ากฎหมายได้ผ่านการลงมติความเห็นชอบในวาระที่สาม สมาชิก

               รัฐสภาฝ่ายที่ไม่เห็นด้วยกับร่างกฎหมายดังกล่าวอาจใช้วิธีการเปลี่ยนให้เป็นการลงคะแนนประชามติเพื่อให้มวลชน
               ช่วยตัดสินใจแทนได้ข้อก าหนดมาตรา 42
                              “มาตรา 42 (1) เมื่อร่างกฎหมายผ่านความเห็นชอบของรัฐสภาจนครบทุกวาระแล้ว สมาชิก

                       รัฐสภาจ านวนหนึ่งในสามสามารถเข้าชื่อร้องขอให้ประธานสภาประกาศให้น าร่างกฎหมายเปิดลงคะแนน
                       เสียงประชามติแทน”

                       อย่างไรก็ตาม ในมาตรา 42 (6) มีข้อยกเว้นร่างกฎหมายที่ห้ามน ามารอลงประชามติ อาทิ ร่างกฎหมาย
               การเงิน (Financial Bills) ร่างกฎหมายงบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติม (Supplementary Appropriation Bills)

               ร่างกฎหมายกู้ยืมภาครัฐ (Government Loan Bills) หรือร่างกฎหมายภาษี (Taxation Bills) เป็นต้น



                       สรุป

                       พัฒนาการของระบบรัฐสภาเดนมาร์กในยุคสมัยใหม่เกิดขึ้นนับตั้งแต่เกิดการเปลี่ยนผ่านจากระบอบ

               สมบูรณาญาสิทธิราชย์มาเป็นระบอบประชาธิปไตยโดยสมบูรณ์แล้ว การเปลี่ยนผ่านนี้ถือเป็นหมุดหมายส าคัญที่ท า
               ให้ระบบรัฐสภาเดนมาร์กมีความเป็นประชาธิปไตยมากยิ่งขึ้น รัฐธรรมนูญ ค.ศ. 1953 เป็นกลไกเชิงสถาบันที่ส าคัญ

               ในการก าหนดกรอบกติกาพฤติกรรมทางการเมืองของสมาชิกรัฐสภาเดนมาร์ก การเปลี่ยนแปลงรูปแบบของรัฐสภา
               จากระบบสภาคู่มาเป็นระบบสภาเดี่ยว และการน าระบบเลือกตั้งแบบสัดส่วนมาใช้ ท าให้เกิดการแข่งขันระหว่าง
               พรรคการเมืองที่หลากหลายในเชิงอุดมการณ์ต่างๆ อย่างไรก็ตาม สภาวการณ์ที่เกิดการแข่งขันระหว่างพรรค

               การเมืองหลากหลายอุดมการณ์ในด้านหนึ่งก็มีผลดี คือ แม้ว่ารัฐบาลจะรวมตัวกันเป็นรัฐบาลเสียงข้างน้อย แต่ด้วย
               การแข่งขันสูง และการมีหลักประกันการท างานให้รัฐมนตรีพ้นจากต าแหน่งก็ต่อเมื่อเสียงข้างมากของสภางมติไม่

               ไว้วางใจ ผลก็คือรัฐบาลไม่ว่าจะเป็นเสียงข้างมากหรือข้างน้อยก็จะมีความมั่นคงในการท างานของรัฐบาลได้อย่าง
               ต่อเนื่อง ในทางกลับกัน ในด้านที่เป็นผลเสียก็คือ ความหลากหลายทางอุดมการณ์ของพรรคการเมืองในสภาก็อาจ

               ส่งผลให้ฝ่ายค้านรวมกลุ่มกันเป็นเสียงข้างมากเข้ากดดันการท างานของรัฐบาลให้เป็นไปตามที่ฝ่ายค้านต้องการใน
               ลักษณะของรัฐบาลเงาโดยฝ่ายค้านเสียงข้างมาก นอกจากนั้นการท างานของรัฐบาลยังอาจถูกกดดันได้โดยปัจจัย

               ภายนอก โดยเฉพาะอย่างยิ่งองค์การระหว่างประเทศขนาดใหญ่ของกลุ่มประเทศยุโรปอย่างสหภาพยุโรป ยิ่งส่งผล
               ให้การท างานของรัฐบาลมีความอิสระน้อยลงตามไปด้วย




                       3.2 สเปน

                       พัฒนาการทางประวัติศาสตร์


                       จุดเริ่มต้นของพัฒนาการของระบบรัฐสภาสเปนอาจเริ่มต้นพิจารณาจากการศึกษาเรื่องพรรคการเมือง
               สเปน De Dios (1999) ได้อธิบายว่า การสร้างพรรคการเมืองให้มีความเป็นสถาบันนั้นมีจุดเริ่มต้นหลังจากการจาก
   40   41   42   43   44   45   46   47   48   49   50