Page 168 - 23154_Fulltext
P. 168
163
วุฒิสภาที่เป็นพลังส าคัญในการยับยั้งหรือต่อรองทางการเมืองเพื่อควบคุมการจัดสรรทรัพยากรหรือผลประโยชน์
ทางเศรษฐกิจผ่านกระบวนการในรัฐสภา รวมถึงคณะรัฐมนตรีที่มาจากการแต่งตั้งโดยไม่ได้สัมพันธ์กับสภา
ผู้แทนราษฎร และยังปลดข้อจ ากัดให้ข้าราชการสามารถเข้าร่วมเป็นรัฐมนตรีได้ เช่นเดียวกับข้าราชการสามารถ
เป็นวุฒิสภาได้ด้วยเช่นกัน นอกจากนั้นส่วนของตุลาการยังให้อ านาจของรัฐสภาสามารถเลือกตุลาการรัฐธรรมนูญ
โดยวุฒิสภาเองยังทั้งเป็นประธานตุลาการรัฐธรรมนูญและร่วมเลือกสมาชิก 4 คน จึงน ามาสู่ข้อสังเกตต่อการ
ครอบง าระบบรัฐสภาด้วยความสัมพันธ์เชิงอ านาจที่พลังระบบราชการครองอ านาจน าในแบบประชาธิปไตยครึ่งใบ
7.2 ธรรมนูญการปกครองราชอาณาจักร พ.ศ. 2534
บริบททางการเมือง
หลังจากรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2521 ประกาศใช้ รัฐบาลเกรียงศักดิ์ได้รับผลประโยชน์จากเงื่อนไขใน
รัฐธรรมนูญดังกล่าวบางประการ อาทิ การที่ข้าราชการสามารถรับต าแหน่งรัฐมนตรีได้ หรือการแต่งตั้งวุฒิสภาให้
เป็นข้าราชการได้ ซึ่งวุฒิสภาจากการแต่งตั้งดังกล่าวก็สามารถออกเสียงในการประชุมประเด็นส าคัญในสภาได้ เมื่อ
เป็นเช่นนี้อาจมองว่ารัฐบาลจะมีเสถียรภาพ จนกระทั่งมีปัจจัยภายนอกแทรกแซงก็คือ วิกฤตราคาน้ ามันอันมาจาก
การปฏิวัติในอิหร่าน และด้วยการที่ไม่สามารถรับมือกับราคาเชื้อเพลิงที่สูงขึ้นส่งผลให้เกรียงศักดิ์ต้องลาออก
(บัณฑิต จันทร์โรจนกิจ, 2563: 136; ภูริ ฟูวงศ์เจริญ, 2563: 418) โดยนายกรัฐมนตรีคนต่อมาที่ได้รับการสนับสนุน
อย่างกว้างขวางทั้งนักการเมืองที่ต้องการประนีประนอมกับกองทัพ และภายในกองทัพเองก็ให้การสนับสนุน
เช่นกันก็คือ พลเอกเปรม ติณสูลานนท์
บริบททางการเมืองภายใต้รัฐบาลเปรมเป็นไปอย่างมีดุลยภาพทางอ านาจ หรือดังที่มีชื่อเรียกว่าเป็น “เปร
มาธิปไตย” ดังคุณลักษณะส าคัญ 3 ประการที่อุกฤษฏ์ ปัทมานันท์นิยามไว้ ได้แก่ เป็นประชาธิปไตยครึ่งใบที่มี
รัฐธรรมนูญและสภาผู้แทนราษฎรจากการเลือกตั้ง ทว่าคณะรัฐมนตรีกับกองทัพมีความสัมพันธ์ดีต่อกันจน
แทรกแซงการเมืองได้ ถัดมาประการที่สอง เทคโนแครตที่เชี่ยวชาญในแต่ละด้านท าหน้าที่ก าหนดนโยบายในด้าที่
แต่ละคนถนัด และประการที่สาม ใช้แนวทางพัฒนาประเทศบนฐานความเป็นจริงทางเศรษฐกิจ (ปกป้อง จันวิทย์,
2550) โดยที่มีผู้เสนอเพิ่มเติมว่าอาจมีบางปัจจัยส าคัญที่ช่วยค้ ายันความชอบธรรมของรัฐบาลเปรมทั้ง 5 สมัย ดังที่
ธนาพล อิ๋วสกุล (2561) เสนอว่ามีอีก 2 ปัจจัยส าคัญที่สร้างความชอบธรรมให้กับเปรมาธิปไตย ได้แก่ ประการแรก
คือ การสนับสนุนจากราชส านัก สังเกตได้จากการที่รัฐบาลเปรมอิงการสนับสนุนของพระบรมวงศานุวงศ์เพื่อให้
รัฐบาลรอดจากการก่อกบฏรัฐประหาร รวมถึงการที่หัวหน้าพรรคฝ่ายค้านเลิกต่อต้านการต่ออายุราชการของเปรม
หลังจากเข้าเฝ้าพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช กรณีเหล่านี้สะท้อนพระราชอ านาจที่ส่งผลต่อความ
ยืนยงของรัฐบาล นอกจากนั้นประการที่สอง รัฐสภาภายใต้รัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2521 นักการเมืองมีอ านาจอ่อนแอลง
และอ านาจส่วนใหญ่อยู่ภายใต้เทคโนแครตและวุฒิสภา ส่งผลให้พรรคการเมืองอ่อนแอเกินกว่าจะร่วมกันคาน
อ านาจนายกรัฐมนตรีคนนอก ปัจจัยเหล่านี้ส่งผลให้เกิดความมีเสถียรภาพทางอ านาจให้รัฐบาลเปรมสามารถคงอยู่
ได้และเปรมก็ได้รับการเชิญมาเป็นนายกรัฐมนตรีอยู่จนถึง 5 สมัย จนกระทั่งหลังจากการเลือกตั้งเมื่อ 24