Page 167 - 23154_Fulltext
P. 167
162
ที่ครองอ านาจน าทางการเมือง ขณะที่เมื่อพิจารณาเบื้องต้นจากรายชื่อของคณะกรรมธิการก็พบว่า มีผู้เชี่ยวชาญ
ด้านนิติศาสตร์ให้ความร่วมมือ ทั้งศาสตราจารย์จิตติ ติงศภัทิย์ ที่มาเป็นประธานกรรมาธิการ นายมีชัย ฤชุพันธุ์ ที่
เป็นเลขาคณะกรรมาธิการ หรือศาสตราจารย์ไพโรจน์ ชัยนาม เป็นสมาชิกคณะกรรมาธิการ แนวโน้มของเนื้อหา
ของรัฐธรรมนูญจึงกลับไปหาสภาจากการเลือกตั้ง ทว่าเมื่อรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2521 ประกาศใช้ และพิจารณาผ่าน
ตัวบทแล้วกลับพบกลไกการสืบทอดอ านาจของพลังฝ่ายระบบราชการชิ้นส าคัญเอาไว้อีกด้วย
ตัวบทรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2521 วางเจตนารมณ์ไว้อย่างชัดเจนที่จะสืบทอดอ านาจของกองทัพและระบบ
ราชการให้สามารถใช้อ านาจได้อย่างชอบธรรมในกลไกของระบบรัฐสภา โดยสังเกตการแฝงฝังกลไกในระบบผ่าน
ความเปลี่ยนแปลงของความสัมพันธ์เชิงอ านาจในระบบรัฐสภาของรัฐธรรมนูญฉบับนี้ใน 4 ประการได้แก่ ประการ
แรกคือ องคมนตรีครองอ านาจในการตัดสินใจทางการเมืองเกี่ยวกับสถาบันกษัตริย์ ไม่ว่าจะการเสนอชื่อผู้ส าเร็จ
ราชการแทนเพื่อให้รัฐสภาเห็นชอบตามมาตรา 17 หรือการเสนอชื่อผู้สืบราชสันตติวงศ์เพื่อให้รัฐสภาเห็นชอบตาม
มาตรา 21 เป็นต้น อ านาจดังกล่าวจึงสะท้อนอ านาจการเสนอชื่อหรือรับต าแหน่งในช่วงสุญญากาศทางอ านาจโดย
องคมนตรี ขณะที่รัฐสภาไม่สามารถร่วมพิจารณาและได้เพียงแสดงความเห็นชอบเท่านั้น ประการที่สอง ระบบ
รัฐสภากลับมาเป็นระบบสภาคู่อีกครั้งภายใต้ความสัมพันธ์เชิงอ านาจที่วุฒิสภามีที่มาจากการแต่งตั้งตามมาตรา 84
และ 85 ที่ไม่ได้เป็นสมาชิกพรรคการเมือง และมีจ านวนวุฒิสภาไม่เกิน 3 ใน 4 ของจ านวนสมาชิกทั้งหมดของสภา
ผู้แทนราษฎร และวาระคราวละ 6 ปี อย่างไรก็ตามวุฒิสภาไม่มีข้อจ ากัดห้ามเป็นข้าราชการหรือรับเงินเดือนจาก
ราชการ จึงเป็นการเปิดโอกาสให้กองทัพและตัวแทนจากระบบราชการเข้ามารับต าแหน่งและแสวงหาทรัพยากร
และผลประโยชน์จากระบบรัฐสภา เพราะแม้ว่าอ านาจเสนอร่างพระราชบัญญัติจะเป็นของสภาผู้แทนราษฎรที่มา
จากการเลือกตั้งและคณะรัฐมนตรี แต่วุฒิสภายังมีอ านาจพิจารณาร่างกฎหมาย และนอกจากนั้นวุฒิสภายังมี
อ านาจเทียบเท่ากับสภาผู้แทนราษฎรในการประชุมประเด็นส าคัญ ได้แก่ ประเด็นให้ความเห็นชอบต่อผู้ส าเร็จ
ราชการแทนหรือผู้สืบราชสันตติวงศ์ ประเด็นการปรึกษาพระราชบัญญัติใหม่ ประเด็นการตีความรัฐธรรมนูญที่
เกี่ยวข้องกับรัฐสภาหรือแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ ประเด็นการอภิปรายในรัฐสภา ประเด็นความมั่นคงของชาติ
และประเด็นการแต่งตั้งตุลาการรัฐธรรมนูญ โดยเฉพาะอย่างยิ่งตามมาตรา 194 ที่ก าหนดให้วุฒิสภาเป็นกลไก
ส าคัญที่จะเห็นชอบหรือยับยั้งร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญผ่านกระบวนการรัฐสภา นอกจากนั้นประการที่สาม
คณะรัฐมนตรีมาจากการแต่งตั้งตามมาตรา 146 โดยที่มาตรา 204 ละเว้นให้ข้าราชการสามารถรับต าแหน่ง
รัฐมนตรีได้ และด้วยการที่ฝ่ายนิติบัญญัติไม่สามารถร่วมเลือกนายกรัฐมนตรีได้ ส่งผลให้เกิดความอิสระของ
นายกรัฐมนตรีกับรัฐสภา ทง่าในทางกลับกัน พลังของระบบราชการสามารถเข้ามาท างานได้ทั้งวุฒิสภาและ
รัฐมนตรี จึงกล่าวได้ว่าระบบราชการสามารถส่งตัวแทนมาครอบง าได้ทั้งฝ่ายบริหารและวุฒิสภาที่มีสัดส่วนเกือบ
ครึ่งของรัฐสภา และท้ายที่สุดในประการที่สี่ คณะตุลาการรัฐธรรมนูญถูกปรับสัดส่วนเป็น 7 คน โดยมาจากวิชาชีพ
ทางตุลาการ 2 คน และอีก 5 คนมาจากฝ่ายนิติบัญญัติ โดยที่ประธานวุฒิสภาครองต าแหน่งประธานตุลาการ
รัฐธรรมนูญ
ด้วยเหตุนี้ รัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2521 จึงสะท้อนเจตนารมณ์อย่างชัดเจนที่จะให้พลังของระบบราชการที่น า
โดยกองทัพได้สืบทอดอ านาจอย่างชอบธรรมผ่านสถาบันการเมือง โดยแบ่งเป็นสัดส่วนของนักการเมืองจากการ
เลือกตั้งในสภาผู้แทนราษฎร และสัดส่วนของตัวแทนจากการแต่งตั้งจากพลังระบบราชการที่ฝังกลไกลงในทั้ง

