Page 112 - 22816_Fulltext
P. 112

89





                     หรือขับเคลื่อน TUNA ACT Model ให้ประสบความสำเร็จย่อมขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย ทั้งนโยบายและ
                     กลไกที่มีความชัดเจน ผู้บริหารที่มีความมุ่งมั่นในการผลักดันนโยบายให้เป็นจริง ทรัพยากรที่มี

                     อย่างเพียงพอทั้งเงิน คน วัสดุ รวมถึงองค์ความรู้ในด้านสันติวัฒนธรรมที่มีความสอดคล้องกับแต่ละ

                     สถานศึกษา สามารถเปรียบเทียบได้กับปลาทูน่าในท้องทะเลที่มีหลากหลายสายพันธุ์ รูปร่าง ขนาด
                     ที่ไม่เท่ากัน และมีวิถีชีวิตที่แตกต่างแต่สามารถอยู่ร่วมกันได้เป็นฝูง

































                     ภาพที่ 5.1 TUNA ACT Model กับปัจจัยแห่งความสำเร็จ โดย ผู้วิจัย


                            สรุป

                            การขับเคลื่อนสันติวัฒนธรรมในสถานศึกษานำร่อง 19 สถาบัน ใน 3 ระดับคือ ประถมศึกษา

                     มัธยมศึกษา อาชีวศึกษาและมหาวิทยาลัย มีพัฒนาการของการสร้างองค์ความรู้และขับเคลื่อนความรู้

                     เพื่อให้เกิดสันติวัฒนธรรมในสถานศึกษาหลายปี จากองค์ความรู้ที่ได้สร้างขึ้นมานำมาสู่การขับเคลื่อน
                     ให้เห็นผล โดยใช้งานวิจัยเป็นฐานความรู้ และนำมาพัฒนาต่อยอดมาเป็นโมเดลต้นแบบเพื่อนำไปทดลอง

                     ให้เกิดผลปฏิบัติจริง โมเดล TUNA ACT เกิดขึ้นและมีการรับรองจากผู้ที่เกี่ยวข้องดังกล่าว จากนั้นมีการ
                     นำรูปแบบการสร้างสันติวัฒนธรรมในสถานศึกษา ไปประยุกต์ด้วยการอบรมผู้บริหาร คณาจารย์

                     ในสถานศึกษานำร่อง ทั้ง 19 สถาบัน โดยมุ่งหวังว่าจะเกิดความยั่งยืนและรูปธรรมของการสร้างสันติ

                     วัฒนธรรมให้เกิดขึ้นในสถานศึกษา ในการอบรมสะท้อนให้เห็นว่าผู้เข้ารับการอบรมได้รับความรู้เพิ่มมาก
                     ขึ้นจากการวัดผลก่อนและหลังอย่างมีนัยสำคัญ และจากแบบสำรวจทัศนคติพบว่า ผู้เข้ารับการอบรม

                     มีทัศนคติที่เอื้อและส่งเสริมสันติวัฒนธรรมอย่างมีนัยสำคัญเช่นกัน นอกจากผลเชิงบวกในห้องเรียน

                     ซึ่งมีความสำคัญแล้ว สิ่งสำคัญยิ่งกว่านั้นคือ ภายหลังจากอบรมเสร็จสิ้น เกิดความยั่งยืนด้วยการมีกลไก
   107   108   109   110   111   112   113   114   115   116   117