Page 49 - รายงานฉบับสมบูรณ์
P. 49
ในการเลือกตั้งครั้งนี้ยังมีค าร้องยุบพรรคอีกสองพรรค คือ พรรคประชาธิปัตย์ซึ่งถูกกล่าวหาว่า
ปราศรัยใส่ร้ายทักษิณ แต่คณะตุลาการรัฐธรรมนูญเห็นว่าการปราศรัยดังกล่าวเป็นการน าจุดบกพร่องที่เป็น
ที่วิจารณ์กันทั่วไปของ พ.ต.ท. ทักษิณฯ ซึ่งเป็นบุคคลสาธารณะมากล่าวปราศรัย ซึ่งถือได้ว่าเป็นการกระท า
ที่บุคคลทั่วไปสามารถกระท าได้ จึงฟังไม่ได้ว่าพรรคประชาธิปัตย์ ได้จัดให้มีเวทีปราศรัยใส่ร้ายด้วยข้อความเท็จ
หรือจูงใจให้เข้าใจผิดในคะแนนนิยมของ พ.ต.ท. ทักษิณฯ อันจะเป็นการต้องห้าม จึงยกค าร้อง แต่ส าหรับ
พรรคประชาธิปไตยก้าวหน้า พบว่ามีการออกหนังสือรับรองการเป็นสมาชิกพรรคอันเป็นเท็จ เป็นการกระท าที่
ขาดจิตส านึกที่มีต่อประชาชนและไม่ค านึงถึงประเทศชาติ จึงให้ยุบพรรคและตัดสิทธิทางการเมือง
127
กรรมการบริหารพรรคห้าปีเช่นกัน
ผลของการยุบพรรคไทยรักไทยนั้นไม่ผูกพันคดีอาญา ต่อมาในเดือนกุมภาพันธ์ 2559 ศาลฎีกามีค า
พิพากษายืนตามศาลอุทธรณ์ มีค าสั่งยกฟ้องพลเอกธรรมรักษ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา เนื่องจากพยานหลักฐาน
ไม่เพียงพอ ยังมีความสงสัยตามสมควรว่า พลเอกธรรมรักษ์ร่วมกับจ าเลยอื่น ๆ กระท าผิดตามฟ้องหรือไม่
128
จึงยกประโยชน์แห่งความสงสัยให้ ส่วนจ าเลยคนอื่นถูกพิพากษาลงโทษจ าคุก
4.2 การยุบพรรคการเมืองภายใต้รัฐธรรมนูญ 2550
ผลจากการยุบพรรคไทยรักไทยท าให้ประเด็นการยุบพรรคการเมืองกลายเป็นหัวข้อส าคัญ
ในทางรัฐธรรมนูญขึ้นมา ในการจัดท ารัฐธรรมนูญใหม่ มีผู้เสนอให้น าการยุบพรรคเข้ามาบรรจุไว้ด้วย
โดยต้องการให้เกิดความรับผิดชอบร่วมกันของสมาชิกพรรคการเมืองทั้งหมด หากสมาชิกคนใดคนหนึ่งท าผิด
ที่เหลือต้องรับโทษทั้งหมด มีกรรมาธิการร่างรัฐธรรมนูญบางคนสนับสนุนว่า ยาแรงเช่นนี้เป็นมาตรการจ าเป็น
129
เพื่อให้การเมืองไทยใสสะอาดขึ้น
ในมาตรา 237 หมวดคณะกรรมการการเลือกตั้ง บัญญัติว่า ผู้สมัครรับเลือกตั้งผู้ใดกระท าการ
ก่อ หรือสนับสนุนให้ผู้อื่นกระท าการอันเป็นการฝ่าฝืนพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง
สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา หรือระเบียบหรือประกาศของคณะกรรมการการเลือกตั้ง
ซึ่งมีผลท าให้การเลือกตั้งมิได้เป็นไปโดยสุจริตและเที่ยงธรรม ให้เพิกถอนสิทธิเลือกตั้งของบุคคลดังกล่าว
ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร และการได้มาซึ่งสมาชิก
วุฒิสภา
ในวรรคสอง บัญญัติว่า ถ้าการกระท าของบุคคลตามวรรคหนึ่ง ปรากฏหลักฐานอันควรเชื่อได้ว่า
หัวหน้าพรรคการเมืองหรือกรรมการบริหารของพรรคการเมืองผู้ใด มีส่วนรู้เห็น หรือปล่อยปละละเลย หรือ
ทราบถึงการกระท านั้นแล้ว มิได้ยับยั้งหรือแก้ไขเพื่อให้การเลือกตั้งเป็นไปโดยสุจริตและเที่ยงธรรม ให้ถือว่า
พรรคการเมืองนั้นกระท าการเพื่อให้ได้มาซึ่งอ านาจในการปกครองประเทศโดยวิธีการซึ่งมิได้เป็นไปตามวิถีทาง
127 ค าวินิจฉัยคณะตุลาการรัฐธรรมนูญที่ 1-2/2550.
128 https://mgronline.com/politics/detail/9590000012627.
129 https://mgronline.com/daily/detail/9510000100516.
~ 46 ~