Page 53 - รายงานฉบับสมบูรณ์
P. 53
ในส่วนของข้อเท็จจริงนี้ มีค าสั่งศาลฎีกาที่ 5019/2551 วินิจฉัยไว้แล้วว่านายยงยุทธกระท าผิดกฎหมาย
เลือกตั้งจริง จึงไม่อาจแย้งได้อีก ศาลรัฐธรรมนูญไม่อาจวินิจฉัยเป็นอื่น
ดังนั้นจึงเหลือแต่ประเด็นกฎหมาย ซึ่งศาลรัฐธรรมนูญเห็นว่าข้อสันนิษฐานในมาตรา 237
ของรัฐธรรมนูญเป็นบทสันนิษฐานเด็ดขาด หากมีหลักฐานอันควรเชื่อได้ว่า หัวหน้าพรรคการเมืองหรือ
กรรมการบริหารพรรคการเมืองผู้ใดมีส่วนรู้เห็น หรือปล่อยปละละเลย หรือทราบถึงการกระท าผิดของผู้สมัคร
รับเลือกตั้งนั้นแล้วมิได้ยับยั้งหรือแก้ไขเพื่อให้การเลือกตั้งเป็นไปโดยสุจริตและเที่ยงธรรม กฎหมายให้ถือว่า
พรรคการเมืองนั้นกระท าการเพื่อให้ได้มาซึ่งอ านาจในการปกครองประเทศโดยวิธีการซึ่งมิได้เป็นไปตามวิถีทาง
ที่บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญ แม้ข้อเท็จจริง พรรคการเมือง หัวหน้าพรรคการเมือง หรือกรรมการบริหารพรรค
จะไม่ได้เป็นผู้กระท าก็ตาม กฎหมายยังให้ถือว่าเป็นผู้กระท าจึงเป็นข้อเท็จจริงที่ไม่อาจโต้แย้งได้
แม้ศาลรัฐธรรมนูญเองก็ไม่อาจวินิจฉัยเป็นอื่นได้ เพราะการซื้อเสียงนั้นเป็นกิจกรรมที่เกิดขึ้นอย่างแยบยล
ยากจะจับได้ กฎหมายจึงให้เป็นภาระของผู้บริหารพรรคที่จะต้องกวดขันระมัดระวัง ประกอบกับศาลเห็นว่า
พรรคการเมืองเป็นคุณค่าส าคัญในระบอบประชาธิปไตยจึงต้องเป็นองค์กรที่เข้มแข็ง จะต้องเป็นการเข้มแข็ง
ที่มีคุณภาพมาตรฐานโดยด าเนินกิจกรรมทางการเมืองด้วยความสุจริต แต่หากเป็นพรรคการเมืองที่เข้มแข็ง
ในทางทุจริตแล้วย่อมเป็นการท าลายพรรคการเมืองที่สุจริตและการปกครองระบอบประชาธิปไตย
140
ศาลจึงสั่งยุบพรรคพลังประชาชนและเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งกรรมการบริหารพรรคเป็นเวลาห้าปี
นอกจากพรรคพลังประชาชนแล้ว ยังมีพรรคการเมืองอีกสองพรรคที่ถูกยุบเพราะเหตุเดียวกัน คือ
พรรคมัชฌิมาธิปไตย และพรรคชาติไทย ซึ่งพรรคแรก คณะกรรมการการเลือกตั้งพบว่ากรรมการบริหารพรรค
ใช้ให้หัวคะแนนซื้อเสียง และพรรคที่สองก็เช่นกัน คณะกรรมการการเลือกตั้งได้งดการประกาศผลการเลือกตั้ง
และเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งของผู้สมัครและหัวคะแนนไปแล้ว ทั้งสองกรณี ศาลรัฐธรรมนูญยืนยันว่า
ศาลรัฐธรรมนูญจ าต้องถือเอาข้อเท็จจริงตามที่คณะกรรมการการเลือกตั้งได้วินิจฉัยไปแล้ว เป็นบทสันนิษฐาน
เด็ดขาด และบทลงโทษไม่มีดุลพินิจ ยุบพรรคทั้งสองและเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งของกรรมการบริหารพรรคเป็น
141
เวลาห้าปี
ค าวินิจฉัยยุบพรรคการเมืองทั้งสามนั้นส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อการเมือง เนื่องจากสองในสาม
พรรคนั้น เป็นพรรคการเมืองขนาดใหญ่ ครองเสียงข้างมากในสภาผู้แทนราษฎร การยุบพรรคการเมืองเหล่านี้
และตัดสิทธิกรรมการบริหารพรรคเป็นเวลาห้าปี จึงเปลี่ยนภูมิทัศน์การเมืองไทยอย่างรุนแรงฉับพลันโดยไม่มี
ผู้ใดเตรียมตัวไว้ก่อน ส่งผลให้พรรคประชาธิปัตย์ ภายใต้การสนับสนุนของ ส.ส. อดีตพรรคร่วมรัฐบาลบางส่วน
และทหาร ขึ้นมาเป็นรัฐบาลเสียงข้างน้อยได้ส าเร็จ แต่ปัญหาความชอบธรรมของรัฐบาลประชาธิปัตย์
ซึ่งน าโดยอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ จะกลายเป็นชนวนการชุมนุมต่อต้านรัฐบาลสองครั้ง ในเดือนเมษายน 2552 และ
142
เดือนเมษายน - พฤษภาคม 2553 ซึ่งมีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บจ านวนมาก
140 ค าวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญที่ 20/2551.
141 ค าวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญที่ 18/2551 และ 19/2551.
142 Mark Askew, Legitimacy Crisis in Thailand (Silkworms 2010).
~ 50 ~