Page 48 - รายงานฉบับสมบูรณ์
P. 48
พระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขนั้น ไม่ได้ระบุว่าให้ใช้ประกาศที่ 27 กับคดีที่เกิดขึ้นไปแล้ว โดยหลักควรจะ
ตีความว่าโทษตามประกาศฉบับที่ 27 ใช้กับความผิดที่เกิดขึ้นหลังจากประกาศฉบับนี้มีผลใช้บังคับ
แต่ก็ไม่ชัดเจน คือศาลรัฐธรรมนูญจะเป็นผู้ตัดสินประเด็นการใช้กฎหมายย้อนหลังนี้เอง
ก่อนที่คณะตุลาการรัฐธรรมนูญจะตัดสินในเนื้อหาแห่งคดี คณะตุลาการรัฐธรรมนูญพิจารณาแล้วเห็นว่า
ตนเองเป็นผู้มีอ านาจเนื่องจากคณะรัฐประหารให้โอนคดีที่ยังค้างอยู่ในศาลรัฐธรรมนูญมาให้โดยชอบด้วย
รัฐธรรมนูญ (ชั่วคราว) พ.ศ. 2549 แล้ว คณะตุลาการรัฐธรรมนูญยืนยันว่าคณะตุลาการรัฐธรรมนูญ
ประกอบด้วยผู้พิพากษาและตุลาการที่มาจากศาลยุติธรรมและศาลปกครองอันเป็นองค์กรตุลาการ
ที่ปฏิบัติหน้าที่ในพระปรมาภิไธยพระมหากษัตริย์และมีความเป็นอิสระ อีกทั้งคณะตุลาการรัฐธรรมนูญ
ยังมีวิธีพิจารณาที่มีหลักประกันขั้นพื้นฐานในเรื่องการพิจารณาคดีโดยเปิดเผย การให้โอกาสแก่คู่กรณีแสดง
ความคิดเห็นของตนก่อนการวินิจฉัยคดี การให้สิทธิคู่กรณีขอตรวจดูเอกสารที่เกี่ยวกับตน การเปิดโอกาสให้มี
การคัดค้านตุลาการรัฐธรรมนูญ และการให้เหตุผลประกอบค าวินิจฉัยหรือค าสั่งของคณะตุลาการรัฐธรรมนูญ
การปฏิบัติหน้าที่ของคณะตุลาการรัฐธรรมนูญจึงไม่ขัดกับหลักนิติรัฐ
ในเนื้อหานั้น คณะตุลาการรัฐธรรมนูญเห็นว่าผู้บริหารพรรคไทยรักไทย และพรรคเล็กทั้งสอง
ได้ร่วมกันท าผิดกฎหมายว่าด้วยการเลือกตั้ง โดยการจ้างให้พรรคเล็กลงสมัครแข่งขัน และเปลี่ยนแปลงแก้ไข
ฐานข้อมูลสมาชิกเพื่อหลอกลวงว่าเป็นสมาชิกพรรคดังกล่าวถึงระยะเวลา 90 วันที่ก าหนดไว้ตามกฎหมาย
เพื่อจะมีสิทธิลงสมัครรับเลือกตั้งได้ ศาลเห็นต่อว่า แม้คณะกรรมการบริหารพรรคจะไม่มีได้มีมติมอบหมาย
เป็นหนังสือให้พลเอกธรรมรักษ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา กระท าความผิดดังกล่าว แต่ผู้ถูกร้องเป็นกรรมการบริหาร
พรรคที่มีบทบาทสูง และการกระท านั้นสมประโยชน์ของพรรค ไม่ใช่ส่วนตัวผู้ถูกร้องเอง จึงถือเป็นการกระท า
ที่ผูกพันพรรคไทยรักไทยทั้งสิ้น ถือได้ว่าเป็นการกระท าเพื่อให้ได้มาซึ่งอ านาจในการปกครองประเทศ
โดยวิธีการซึ่งมิได้เป็นไปตามวิถีทางที่บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วย
พรรคการเมือง พ.ศ. 2541 มาตรา 66 (1) ส่วนหลัง การกระท าของพรรคไทยรักไทย จึงเป็นภัยต่อความมั่นคงของรัฐ
ขัดต่อกฎหมาย ขัดต่อความสงบเรียบร้อยและศีลธรรมอันดีของประชาชนตามมาตรา 66 (3) อีกด้วย
ศาลสรุปว่าพรรคไทยรักไทย ผู้ถูกร้อง มิได้ให้ความส าคัญหรือเห็นคุณค่าของสิทธิเลือกตั้งของประชาชน
อันเป็นรากฐานส าคัญของการปกครองในระบอบประชาธิปไตย นอกจากนี้ยังแสดงถึงการไม่เคารพย าเกรงต่อ
กฎหมายบ้านเมือง จึงต้องถูกยุบ ส่วนพรรคเล็กทั้งสองกระท าการตามหัวหน้าพรรค ไม่ได้มีลักษณะ
125
เป็นพรรคการเมืองที่แท้จริง จึงสมควรถูกยุบด้วย
ที่อื้อฉาว คือ ผลของการยุบพรรค เพราะคณะตุลาการรัฐธรรมนูญเห็นว่า บทลงโทษเพิกถอนสิทธิ
เลือกตั้งห้าปีตามประกาศฉบับที่ 27 นั้นไม่ใช่โทษอาญา จึงอาจใช้เป็นโทษย้อนหลังได้ ให้ตัดสิทธิคณะกรรมการ
126
บริหารพรรคไทยรักไทยรวมกัน 111 คน
125 ค าวินิจฉัยคณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญที่ 3-5/2550.
126 ปิยบุตร แสงกนกกุล, ศาลรัฐประหาร: ตุลาการ ระบอบเผด็จการ และนิติรัฐประหาร (ฟ้าเดียวกัน 2560) 19-21.
~ 45 ~