Page 41 - รายงานฉบับสมบูรณ์
P. 41

3.7 สรุปบทเรียนจากประสบการณ์ยุบพรรคของต่างประเทศ


                       จากประสบการณ์ที่แสดงข้างต้น การยุบพรรคการเมืองเกิดขึ้นในหลายสถานการณ์ แม้จะไม่ได้เกิดขึ้นบ่อย
               แต่ก็ไม่ใช่ของหายาก การยุบพรรคการเมืองเกิดขึ้นทั่วโลกภายใต้บริบทที่ต่างกัน บางครั้ง ความเห็นส่วนใหญ่

               เห็นพ้องตรงกันว่าการยุบพรรคดังกล่าวเป็นไปเพื่อธ ารงปกป้องระบอบประชาธิปไตย แต่บางครั้งการยุบพรรค

               ก็เรียกเสียงวิจารณ์ว่าเป็นการกระท าที่ท าลายประชาธิปไตยเสียเอง

                       ค าถามคือ เราจะประเมินได้อย่างไร ว่าการยุบพรรคการเมืองครั้งไหนเป็นการยุบพรรคที่ “ดี”

               ตามหลักการประชาธิปไตยป้องกันตนเอง แล้วครั้งใดที่ “แย่” เป็นการเบี่ยงเบนจากหลักการ

                       หากยึดตามมาตรฐานในการยุบพรรคดังที่คณะกรรมการเวนิส ในสหภาพยุโรปเสนอไว้ เราอาจสรุปใหม่

               ได้ดังนี้

                       หนึ่ง เกณฑ์ด้านวัตถุประสงค์

                       การยุบพรรคควรเป็นทางเลือกสุดท้าย การยุบพรรคไม่ควรถูกน าให้เป็นเรื่องปกติ (normalized) แต่

               รัฐพึงลองหามาตรการอื่นมาใช้ทดแทน

                       สุดท้ายแล้ว การยุบพรรคต้องน าไปสู่การรักษาสิทธิเสรีภาพ ไม่ใช่เพื่อท าลาย หากการยุบพรรคนั้น

               กลายเป็นการปิดกั้นเสรีภาพในการแสดงออกและการรวมกลุ่มกันเป็นสมาคมต่อไป การยุบพรรคการเมืองนั้น

               น่าจะเป็นการท าลายประชาธิปไตยมากกว่า นอกจากผลโดยตรงของการยุบพรรคแล้ว อาจจะต้องพิจารณา
               บรรยากาศการเมืองโดยรวมของประเทศนั้น ๆ ในขณะนั้นด้วย


                       เยอรมนีและสเปนใช้การยุบพรรคเป็นกลไกจัดการกับพรรคการเมืองที่อันตรายก็จริง แต่การใช้นั้น
               จ ากัดวงมาก ๆ คือ ใช้กับพรรคการเมืองที่สนับสนุนแนวคิดชาตินิยมสุดโต่งหนึ่งครั้ง แนวคิดเผด็จการสังคมนิยม

               หนึ่งครั้ง และแนวคิดก่อการร้ายแบ่งแยกดินแดนอีกหนึ่งครั้ง เมื่อเทียบกับตุรกี ซึ่งยุบพรรคการเมือง
               จ านวนมากจนเป็นเรื่องปกติ จะเห็นความแตกต่างในเกณฑ์วัตถุประสงค์ชัดเจน


                       ส่วนการยุบพรรคในฮ่องกงและกัมพูชานั้น เกิดขึ้นในบรรยากาศการเมืองที่ไม่เป็นประชาธิปไตย
               อย่างชัดเจน ฮ่องกงตกอยู่ภายใต้อ านาจของรัฐบาลจีนแผ่นดินใหญ่ และกัมพูชาเป็นเผด็จการพลเรือนพรรคเดียว

               มาหลายสิบปี และเมื่อยุบพรรคไปแล้วกลายเป็นว่าไม่เหลือพื้นที่ทางการเมืองให้กับความเห็นต่างจากรัฐบาล

                       สอง เกณฑ์ด้านการกระท า

                       โดยธรรมชาติ นโยบายหรือกิจกรรมทางการเมืองย่อมเป็นปฏิปักษ์ต่อกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง

               ระหว่างฝ่ายค้านกับฝ่ายรัฐบาล การกระท าหรือการแสดงความคิดเห็นที่จะน าไปสู่การยุบพรรคนั้น

               ต้องไม่เพียงแค่เป็นปฏิปักษ์ต่อกัน จะต้องมีองค์ประกอบของความรุนแรงอยู่ การเรียกร้องความเปลี่ยนแปลง
               ตามกติกา โดยสันติวิธี ไม่เพียงพอต่อการยุบพรรค









                                                                                                   ~ 38 ~
   36   37   38   39   40   41   42   43   44   45   46