Page 229 - kpi21365
P. 229

พร และอภิญญา ดิสสะมาน (2562) ที่ได้การวิจัยเรื่องความท้าทายในประเด็นธรรมาภิบาลกับการ

                     ขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ชาติ โดยผลการวิจัยพบว่า การขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ชาติในประเด็นธรรมาภิบาล

                     ด้านการมีส่วนร่วมเป็นด้านที่มีค่าเฉลี่ยการขับเคลื่อนอยู่ในระดับสูง แต่มีค่าเฉลี่ยของการขับเคลื่อน
                     ยุทธศาสตร์ชาติ ฯ อยู่ในล าดับที่ต่ าที่สุดเมื่อเทียบกับด้านอื่นๆ  ซึ่งผลการวิจัยพบว่าสภาพปัญหาในการ

                     ท างานของหน่วยงานภาครัฐจ านวนหนี่งมาจากการขาดโครงสร้างการบริหารในระดับอ าเภอเพื่อท า

                     หน้าที่เชื่อมการท างานระหว่างองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นท าให้การท างานไม่มีประสิทธิภาพ และด้วย
                     เหตุที่การเพิ่มจ านวนบุคลากรไม่สอดคล้องกับนโยบายเรื่องการปฏิรูประบบราชการ ได้ส่งผลให้ขนาด

                     หรือโครงสร้างของหน่วยงานภาครัฐจ านวนหนึ่งไม่สอดคล้องกับบริบทการเปลี่ยนแปลงในปัจจุบัน ซึ่ง

                     สอดคล้องกับแนวคิดของ Edwards III (1980) ที่กล่าวว่า โครงสร้างระบบราชการ (Bureaucratic
                     Structure) เป็นปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อการน านโยบายไปปฏิบัติ โดยการแบ่งส่วนงานขององค์กรและ

                     มาตรฐานของระเบียบการปฏิบัติขององค์กรอาจจะเป็นอุปสรรคต่อการประสานงานในการน านโยบาย

                     ไปปฏิบัติได้

                             ตัวอย่างเช่น รายงานการศึกษาวิจัยเพื่อติดตามและประเมินผลการกระจายอ านาจเสนอต่อ

                     ส านักงานคณะกรรมการการกระจายอ านาจ โดย คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย (สยามรัฐ

                     ออนไลน์, 2563) มีอุปสรรคใน 2 เรื่องคือ 1) นโยบายการกระจายอ านาจในรอบ 15 ปีที่ผ่านมาไม่
                     ต่อเนื่อง และมีการเปลี่ยนแปลงไปตามนโยบายของรัฐบาลที่เข้ามาบริหารประเทศ กล่าวคือในช่วงปี

                     พ.ศ. 2540 – 2543 นโยบายของรัฐบาลมีความชัดเจน เข้มแข็ง กระตือรือร้นต่อการกระจายอ านาจ แต่

                     รัฐบาลในช่วงหลังจากนั้นกลับใช้นโยบายรวมศูนย์อ านาจเข้าสู่ส่วนกลาง จนถึงปี พ.ศ. 2549 เป็นต้นมา
                     รัฐบาลหลายชุดท างานอย่างขาดเสถียรภาพ ไม่มีนโยบายด้านการกระจายอ านาจที่ชัดเจน และมิได้

                     ด าเนินการผลักดันการกระจายอ านาจอย่างจริงจัง จึงปล่อยให้การกระจายอ านาจตกอยู่ในมือของ

                     ข้าราชการประจ าและนักการเมืองในสภาผู้แทนราษฎรที่ต่างกันดึงให้การกระจายอ านาจเดินถอยหลัง
                     เป็นระยะๆ 2) วิธีการกระจายอ านาจผิดพลาด ข้อมูลจากการศึกษาครั้งนี้พบว่าภารกิจส่วนใหญ่ถูกถ่าย

                     โอนลงไปที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นระดับล่างสุด ซึ่งก็คือเทศบาลและองค์การบริหารส่วนต าบล แต่

                     ในอีกด้านหนึ่ง กว่าร้อยละ 70 ของเทศบาลและองค์การบริหารส่วนต าบลในปัจจุบันมีขนาดเล็กและมี
                     ขีดความสามารถจ ากัด ท าให้เทศบาลและองค์การบริหารส่วนต าบล ส่วนใหญ่ไม่สามารถรับภารกิจที่

                     ส่วนราชการต่างๆ ถ่ายโอนลงไปได้อย่างเต็มที่ ในขณะเดียวกัน รัฐบาลและส่วนราชการที่มีหน้าที่

                     รับผิดชอบในด้านนี้ก็ไม่ได้สนใจที่จะยกระดับขีดความสามารถของท้องถิ่น เพื่อให้สามารถท าหน้าที่
                     ด าเนินภารกิจถ่ายโอนต่างๆ ได้อย่างราบรื่น ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการถ่ายโอนบุคลากร รายได้หรือแม้กระทั่ง

                     การแก้ไขกฎหมายเพื่อเพิ่มอ านาจให้ท้องถิ่นด าเนินงานได้อย่างแท้จริงปล่อยให้ท้องถิ่นตัดสินใจกันเองว่า

                     จะรับหรือไม่รับภารกิจอะไรไปด าเนินการ จะท าได้แค่ไหนก็สุดแล้วแต่ท้องถิ่นนั้นๆ และไม่ใช่เรื่องที่




                      โครงการวิจัยการติดตามการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ชาติสู่การปฏิบัติ :                210
                      ยุทธศาสตร์ชาติด้านการปรับสมดุลและการพัฒนาระบบบริหารจัดการภาครัฐ
   224   225   226   227   228   229   230   231   232   233   234