Page 211 - 21211_fulltext
P. 211
การประหยัดจากขนาดในองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
และวิเคราะห์ศักยภาพการควบรวมท้องถิ่นขนาดเล็ก
๏ การทำกรณีศึกษาในพื้นที่ การสอบถามทัศนคติและความคิดเห็นของ
คนท้องถิ่น (ฝ่ายการเมือง เจ้าหน้าที่ของรัฐ) เพื่อประมวลข้อมูลสถานการณ์
(จำเพาะเจาะจงของแต่ละพื้นที่) เข้าใจว่ามีการเตรียมการควบรวมอย่างไร
เห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วยกับมาตรการควบรวม
๏ การควบรวมท้องถิ่นตามหลักการมีสองแนวทาง คือ ควบรวมภาคบังคับ
และ ควบรวมโดยสมัครใจ แต่ในบริบทของประเทศไทย—แนวทางแรก
น่าจะเป็นไปได้ยาก เนื่องจากกฎหมายรัฐธรรมนูญของไทยได้ระบุถ้อยคำว่า
“เป็นไปตามเจตนารมณ์ของประชาชน” ซึ่งตีความว่าการควบรวมจำเป็น
ต้องคำนึงถึงเจตนารมณ์ของประชาชน อนึ่ง ระเบียบปฏิบัติการควบรวม
(พ.ศ. 2547) ได้กำหนดขั้นตอนการสอบถามเจตนารมณ์ของประชาชนหรือ
ประชามติ (กรณีศึกษาในอดีต เทศบาลวังน้ำเย็น จ.สระแก้ว และ เทศบาล
วังเหนือ จ.ลำปาง มีขั้นตอนการลงคะแนนเสียงของประชาชน)
๏ การน้อมนำวิธีการ “นโยบายศึกษา”มาใช้ หมายถึง ขั้นตอนต่าง ๆ ของ
การเปลี่ยนแปลงขนาดใหญ่ คือ policy identification, policy agenda,
policy implementation, policy evaluation
๏ การเสนอทางเลือก (มาตรการจูงใจโดยจัดสรรเงินอุดหนุนให้หน่วยงาน
ท้องถิ่นที่เข้ากระบวนการควบรวม เนื่องจากตระหนักว่า มีต้นทุนการปรับตัว
และค่าโสหุ้ยเกิดขึ้น และเป็นการให้ความร่วมมือกับรัฐบาล จึงเป็น
การสมควรได้รับเงินอุดหนุนในช่วงการเปลี่ยนผ่าน
8.2 กิจกรรมการวิจัย
ส่วนที่หนึ่ง การศึกษาสภาพเป็นจริง (positive analysis) โดยอิงหลักฐาน
เชิงประจักษ์ และการทดสอบข้อสันนิษฐานการวิจัย (การประหยัดจากขนาดของ
ท้องถิ่น) ผ่าน 3 สมการ กล่าวคือ staffpop1000, capxstaff, capxserv ซึ่งสะท้อน
ปัจจัยนำเข้าเปรียบเทียบกับผู้รับบริการ (ประชาชน) อีกนัยหนึ่งเป็นการวัด cost-
effectivenesss โดยทดสอบว่า องค์การขนาดเล็กเกินไปมีต้นทุนต่อหัวสูง สะท้อน
การใช้ทรัพยากรที่ไม่คุ้มค่า และเป็นภาระการอุดหนุนของรัฐบาล การทดสอบ
1 สถาบันพระปกเกล้า