Page 29 - kpi20899
P. 29
“การถอดบทเรียนชุมชนเพื่อการปฏิรูปกระบวนการจัดการทรัพยากร : พลวัตแห่งการมีส่วนร่วมในการจัดการทรัพยากรน ้า
ในพื นที่ต้าบลหนองพันจันทร์ อ้าเภอบ้านคา จังหวัดราชบุรี” โดย ดร.ปริชัย ดาวอุดม และนายเจษฎา เนตะวงศ์
ดังกล่าวอย่างยิ่งการน้าวิธีวิทยาในการวิจัยแบบฐานรากผสมผสานกับการถอดบทเรียนโดยวิธีการเล่าเรื่อง
ดังที่กล่าวมานั้น นอกจากจะเป็นแนวทางหนึ่งในการแก้ไขข้อจ้ากัดของถอดบทเรียนตามวิธีการทั่วไป
เนื่องจากขาดมุมมองในเชิงวิธีวิทยาที่ชัดเจนแล้วยังช่วยให้ผู้วิจัยสามารถที่จะได้ทั้งข้อมูลเชิงลึกที่เป็นที่มา
เงื่อนไข ปัจจัยและกระบวนการที่น้าไปสู่การเปลี่ยนแปลงในเชิงทรัพยากรของชุมชนโดยเฉพาะอย่างยิ่งการ
เปลี่ยนแปลงในด้านทรัพยากรน้้า จนน้าไปสู่การคิดค้นหาวิธีบริหารจัดการน้้าร่วมกับหน่วยงานรัฐและ
ภาคส่วนอื่นๆ การถอดบทเรียนโดยใช้การเล่าเรื่องนอกจากจะท้าให้เข้าถึงรายละเอียดปลีกย่อยของการ
มีส่วนร่วมในการจัดการน้้าที่ประสบความส้าเร็จของชุมชนแล้วยังจะท้าให้ได้มุมมองของภาครัฐ ภาคเอกชน
และภาคส่วนอื่นๆ ที่เข้ามามีส่วนสนับสนุนกระบวนการจัดการทรัพยากรของชุมชนดังกล่าวด้วย
2.5 วิธีวิทยาการสร้างทฤษฎีจากฐานราก
วิธีวิทยาการวิจัยแบบสร้างทฤษฎีจากฐานรากเกิดขึ้นในสาขาวิชาสังคมวิทยา หนังสือ The
Discovery of Grounded Theory ซึ่งแต่งโดย Barney Glaser กับ Anselm Strauss เป็นจุดเริ่มต้นของ
วิธีการวิจัยแบบนี้โดย หลังจากนั้นมา Glaser กับ Strauss ได้เขียนหนังสือและบทความว่าด้วยวิธีการนี้
อีกมาก (Cresswell, 1998 อ้างถึงใน ชาย โพธิสิตา, 2554 หน้า 165) ทั้งนี้การสร้างทฤษฎีจากฐานรากนั้น
จะเน้นการตีความข้อมูลเพื่อหาค้าอธิบายส้าหรับปรากฏการณ์ที่ศึกษา ผลของการตีความคือข้อสรุป
เชิงทฤษฎี ซึ่งมีลักษณะเป็นนามธรรมและมีฐานมาจากข้อมูลโดยตรง ค้าอธิบายที่เป็นนามธรรมเช่นนั้น
มักจะอยู่ในรูปของมโนทัศน์หรือกรอบแนวคิดทฤษฎีที่บอกถึงความสัมพันธ์ระหว่างมโนทัศน์ต่างๆ
(ชาย โพธิสิตา, 2554 หน้า 167)
ทฤษฎีฐานรากคือ ทฤษฎีที่ได้จากการศึกษาปรากฏการณ์ทางสังคม โดยทฤษฎีจะถูกสร้าง
(construct) และได้รับการตรวจสอบ (verify) โดยการเก็บข้อมูลและการวิเคราะห์ข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับ
ปรากฏการณ์ทางสังคมอย่างเป็นระบบ การสร้างทฤษฎีฐานรากอาศัยกระบวนการเก็บข้อมูลด้วยวิธีการ
วิจัยทางด้านสังคมศาสตร์ เช่น การสัมภาษณ์ระดับลึก การสังเกตแบบมีส่วนร่วม การจัดกลุ่มสนทนา
โดยข้อมูลที่น้ามาวิเคราะห์จะต้องเป็นข้อมูลที่ให้รายละเอียดเกี่ยวกับปรากฏการณ์ทางสังคมในเรื่องที่ศึกษา
อย่างรอบด้าน การบันทึกข้อมูลในลักษณะนี้มักอาศัยการบรรยายเหตุการณ์ ประสบการณ์ของคน เรื่องเล่า
สภาพสังคมอย่างละเอียด การบรรยายอย่างละเอียดนี้เป็นความพยายามที่จะเข้าถึงความหมาย ปรากฏการณ์
เหตุการณ์ต่างๆ เพื่อจะช่วยให้ผู้วิจัยตีความปรากฏการณ์นั้นๆ ได้ตรงตามความหมายของสิ่งที่เกิดขึ้น อันจะ
น้าไปสู่ความเข้าใจปรากฏการณ์นั้นๆ (นภาภรณ์ หะวานนท์ และคณะ, 2550 หน้า 17)
28