Page 20 - kpi20899
P. 20

“การถอดบทเรียนชุมชนเพื่อการปฏิรูปกระบวนการจัดการทรัพยากร : พลวัตแห่งการมีส่วนร่วมในการจัดการทรัพยากรน ้า
                        ในพื นที่ต้าบลหนองพันจันทร์ อ้าเภอบ้านคา จังหวัดราชบุรี”  โดย  ดร.ปริชัย ดาวอุดม และนายเจษฎา เนตะวงศ์







                                                           บทที่ 2

                                               ทฤษฎี แนวคิด กรอบการศึกษา



                         การถอดบทเรียนชุมชนเพื่อการปฏิรูปกระบวนการจัดการทรัพยากร : พลวัตรแห่งการมีส่วนร่วม

                  ในการจัดการทรัพยากรน้้าในพื้นที่ต้าบลหนองพันจันทร์ อ้าเภอบ้านคา จังหวัดราชบุรี ในครั้งนี้

                  มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษากระบวนการจัดการทรัพยากรน้้าที่เกิดขึ้นภายในชุมชน เพื่อจะน้าเสนอให้เห็น

                  บทเรียนต่อการพัฒนาแนวทางการปฏิรูปการบริหารจัดการทรัพยากรน้้า สอดคล้องตามเป้าหมาย

                  รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2559 เป้าหมายส้าคัญของการศึกษาจึงต้องการที่จะน้าเสนอให้

                  เห็นว่าการจัดการทรัพยากรน้้าอย่างมีประสิทธิภาพต้องด้าเนินไปบนพื้นฐานของการมีส่วนร่วมของชุมชน

                  ตามแนวทางประชาธิปไตย ซึ่งจะสะท้อนให้เห็นการเป็นเจ้าของทรัพยากรร่วมของชาวบ้านหรือผู้ใช้น้้า

                  โดยมีความสามารถในการบริหารจัดการ การก้าหนดกติกา กฎเกณฑ์ การแก้ปัญหา และการกระจายการ

                  ใช้ประโยชน์จากน้้าได้อย่างครอบคลุม สอดคล้องกับสภาพความต้องการอย่างแท้จริง ภายใต้การสร้างสรรค์

                  และน้าเอาทุนทางสังคมที่มีอยู่ภายในชุมชนนั้นออกมาใช้ เพื่อพัฒนาเป็นกรอบความสัมพันธ์และด้ารงไว้

                  ซึ่งกฎเกณฑ์ในการบริหารจัดการและใช้ประโยชน์จากทรัพยากรน้้าร่วมกัน  ดังนั้นในการศึกษาครั้งนี้

                  คณะผู้ศึกษาจึงได้ทบทวนทฤษฎี แนวคิดที่เกี่ยวข้อง ดังต่อไปนี้



                  2.1 แนวคิดเกี่ยวกับประชาธิปไตยชุมชน


                         ประชาธิปไตย (Democracy) ถูกน้ามาใช้ในฐานะที่เป็นลักษณะของความคิด ความเชื่อ และ

                  ระบอบการปกครองที่ศรัทธาในความเป็นมนุษย์ โดยมีหลักการพื้นฐานส้าคัญ 4 ประการกล่าวคือ เสรีภาพ
                  เสมอภาค สันติภาพ และภราดรภาพ ในสังคมไทยซึ่งมีการเปลี่ยนแปลงการปกครองจากระบอบ

                  สมบูรณาญาสิทธิราชย์ (Absolute Monarchy) มาเป็นการปกครองที่กษัตริย์อยู่ภายใต้รัฐธรรมนูญ

                  (Constitutional Monarchy) ในปี 2475 ก่อนที่จะมีการน้าเอาค้าว่าประชาธิปไตยมาใช้แทน กระนั้น

                  ความเป็นประชาธิปไตยก็ดูเหมือนเป็นเพียงเรื่องราวที่เกี่ยวข้องอยู่กับระดับของสถาบันการปกครอง และ

                  กระบวนการประชาธิปไตยเพื่อให้ได้มาซึ่งตัวแทนประชาชน การออกกฎหมาย และการบังคับใช้กฎหมาย

                  ซึ่งดูเหมือนสิทธิ เสียง ของประชาชนจะมีอยู่อย่างจ้ากัด เพราะเรื่องราวที่สถาบันการปกครองในระบบ

                  ประชาธิปไตย ด้าเนินการดูจะห่างไกลจากวิถีชีวิตของประชาชน จนอาจกล่าวได้ว่า สถาบันและ
                  กระบวนการประชาธิปไตยในประเทศไทยเท่าที่ผ่านมาแยกออกมาจากวิถีชีวิตของประชาชนเกือบจะสิ้นเชิง

                  หรือกล่าวอีกนัยหนึ่งได้ว่า มิติที่ส้าคัญของประชาธิปไตยคือ มิติวิถีชีวิตได้ถูกละเลยไม่ให้ความส้าคัญ ทั้งที่






                                                            19
   15   16   17   18   19   20   21   22   23   24   25