Page 306 - kpi20858
P. 306
263
ล าดับที่ รูปทรงสัตว์ในจินตนาการ การวิเคราะห์
พระยาอนุศาสน์สามารถถ่ายทอดภาพสัตว์ใน
จินตนาการได้อย่างน่าอัศจรรย์ ฉากตอนที่ นันโทปนัน
ทะพญานาคยอมแพ้และเข้าสู่ร่มพระพุทธศาสนา
พญานาคซึ่งมีลักษณะคล้ายกับมังกรในจิตรกรรม
ตะวันตก ถูกจัดท่าทางให้ยกขาหน้าและอ้าปากกว้าง
จนเห็นลิ้นสองแฉก ประกอบกับการก าหนดทิศทาง
17ค ของเส้นที่บริเวณคอ ล าตัว ไปจนถึงหางของพญานาค
ที่ขดม้วน ยิ่งส่งเสริมความรู้สึกถึงพละก าลังอัน
มหาศาลของพญานาค อีกทั้งมีการลงสีที่พื้นหลัง
แสดงภาพของกลุ่มก้อนเมฆสีเทาทะมึนที่มีมวลหนา
หนัก ยิ่งส่งเสริมบรรยากาศให้เป็นฉากที่เปี่ยมไปด้วย
พลังอ านาจของสัตว์ในจินตนาการยิ่งขึ้น
ตารางที่ 13 รูปทรงในงานจิตรกรรมฝาผนัง พระอุโบสถ วัดสามแก้ว จังหวัดชุมพร โดยพระยาอนุศาสน์ จิตรกร
ที่มา: ผู้วิจัย
รูปทรงที่ปรากฏในจิตรกรรมฝาผนังแห่งนี้ ประกอบด้วยรูปทรงของเทพบุตร เทพธิดา ที่ผนัง
ตอนบน ซึ่งยังคงน าเสนอด้วยท่าทางแบบจิตรกรรมตามขนบนิยม คือมีการจัดท่วงท่าเชิงนาฏ
ลักษณ์ ดังนั้นผนังดังกล่าวจึงมีการน าเสนอรูปทรงที่ยังคงผสมผสานลักษณะบางประการตามแบบ
อุดมคติ จัดอยู่ในรูปทรงประเภทรูปทรงอุดมคติผสานความเหมือนจริง ในขณะที่ที่ผนังตอนกลาง
รูปทรงของเทพตามคติพราหมณ์-ฮินดู แม้ถูกก าหนดด้วยเทวะลักษณะ ตามแบบแผนดั้งเดิม
ดังเช่น พระนนทิ เป็นพระโค พระอินทร์มีกายสีเขียว ฯลฯ แต่ก็แสดงให้เห็นถึงความค านึงถึงสัดส่วน
กล้ามเนื้อ และโครงส้รางทางกายวิภาคในลักณะเหมือนจริง เช่นเดียวกับที่ผนังตอนล่าง รูปทรงของ
พระพุทธเจ้า ตลอดจนรูปทรงมนุษย์ และสัตว์อื่นๆ ส่วนใหญ่มีแนวโน้มน าเสนอรูปทรงแบบเหมือน
จริง ทั้งนี้มีอิสระมากกว่าผนังตอนกลาง อย่างไรก็ตามสามารถสรุปได้ว่า ผนังตอนกลางและ
ตอนล่างนั้นมีการน าเสนอรูปทรงในแบบเหมือนจริง
การจัดวางรูปทรงของเหล่าเทพตามคติพราหมณ์-ฮินดูนั้น มีการจัดให้นั่งเรียงแถวรอบพระ
อุโบสถ เปรียบได้กับการเขียนภาพเทพชุมนุมเรียงต่อกันตามแบบแผนตามขนบ ที่ปรากฏมาแต่
ดั้งเดิม ทว่ามีความเปลี่ยนแปลงรูปแบบของการน าเสนอรูปทรง ด้วยการสร้างกล้ามเนื้อ และแสง
เงา ตลอดจนท่าทางการนั่งให้เกิดความสมจริง แตกต่างไปจากเทพชุมนุมแบบดั้งเดิม ที่มุ่ง
ถ่ายทอดความงามตามแบบอุดมคติ เพื่อแสดงสมมุติภาวะ กล่าวคือ แสดงภาพของบุคคลที่มิใช่