Page 169 - kpi20767
P. 169
144
3 และมีนัยส าคัญทางสถิติ เท่ากับ .22 (Sig. = .22) ซึ่งมากกว่านัยส าคัญทางสถิติที่ก าหนดไว้ในการ
วิจัย โดยสามารถแปลผลได้ว่า กลุ่มตัวอย่างผู้ตอบแบบสอบถามที่มีต าแหน่งต่างกัน มีระดับการ
ด าเนินงานตามยุทธศาสตร์ชาติในด้านการปรับสมดุลและพัฒนาระบบการบริหารจัดการภายใต้หลัก
ธรรมาภิบาลในองค์ประกอบหลักนิติธรรม ไม่แตกต่างกันอย่างมีนัยส าคัญทางสถิติที่ระดับ .05
2) ผลการวิเคราะห์เปรียบเทียบระดับการด าเนินงานตามยุทธศาสตร์ชาติในด้านการ
ปรับสมดุลและพัฒนาระบบการบริหารจัดการภายใต้หลักธรรมาภิบาลในองค์ประกอบหลักคุณธรรม
จ าแนกตามต าแหน่งของกลุ่มตัวอย่าง พบว่า มีค่า F เท่ากับ 1.34 ที่องศาความเป็นอิสระ (df) เท่ากับ
3 และมีนัยส าคัญทางสถิติ เท่ากับ .26 (Sig. = .26) ซึ่งมากกว่านัยส าคัญทางสถิติที่ก าหนดไว้ในการ
วิจัย โดยสามารถแปลผลได้ว่า กลุ่มตัวอย่างผู้ตอบแบบสอบถามที่มีต าแหน่งต่างกัน มีระดับการ
ด าเนินงานตามยุทธศาสตร์ชาติในด้านการปรับสมดุลและพัฒนาระบบการบริหารจัดการภายใต้หลัก
ธรรมาภิบาลในองค์ประกอบหลักคุณธรรมไม่แตกต่างกันอย่างมีนัยส าคัญทางสถิติที่ระดับ .05
3) ผลการวิเคราะห์เปรียบเทียบระดับการด าเนินงานตามยุทธศาสตร์ชาติในด้านการ
ปรับสมดุลและพัฒนาระบบการบริหารจัดการภายใต้หลักธรรมาภิบาลในองค์ประกอบหลักความ
โปร่งใสจ าแนกตามต าแหน่งของกลุ่มตัวอย่าง พบว่า มีค่า F เท่ากับ .78 ที่องศาความเป็นอิสระ (df)
เท่ากับ 3 และมีนัยส าคัญทางสถิติ เท่ากับ .50 (Sig. = .50) ซึ่งมากกว่านัยส าคัญทางสถิติที่ก าหนดไว้
ในการวิจัย โดยสามารถแปลผลได้ว่า กลุ่มตัวอย่างผู้ตอบแบบสอบถามที่มีต าแหน่งต่างกัน มีระดับการ
ด าเนินงานตามยุทธศาสตร์ชาติในด้านการปรับสมดุลและพัฒนาระบบการบริหารจัดการภายใต้หลัก
ธรรมาภิบาลในองค์ประกอบหลักความโปร่งใส ไม่แตกต่างกันอย่างมีนัยส าคัญทางสถิติที่ระดับ .05
4) ผลการวิเคราะห์เปรียบเทียบระดับการด าเนินงานตามยุทธศาสตร์ชาติในด้านการ
ปรับสมดุลและพัฒนาระบบการบริหารจัดการภายใต้หลักธรรมาภิบาลในองค์ประกอบหลักการมีส่วน
ร่วมจ าแนกตามต าแหน่งของกลุ่มตัวอย่าง พบว่า มีค่า F เท่ากับ 1.29 ที่องศาความเป็นอิสระ (df)
เท่ากับ 3 และมีนัยส าคัญทางสถิติ เท่ากับ .28 (Sig. = .28) ซึ่งมากกว่านัยส าคัญทางสถิติที่ก าหนดไว้
ในการวิจัย โดยสามารถแปลผลได้ว่า กลุ่มตัวอย่างผู้ตอบแบบสอบถามที่มีต าแหน่งต่างกัน มีระดับการ
ด าเนินงานตามยุทธศาสตร์ชาติในด้านการปรับสมดุลและพัฒนาระบบการบริหารจัดการภายใต้หลัก
ธรรมาภิบาลในองค์ประกอบหลักการมีส่วนร่วม ไม่แตกต่างกันอย่างมีนัยส าคัญทางสถิติที่ระดับ .05
5) ผลการวิเคราะห์เปรียบเทียบระดับการด าเนินงานตามยุทธศาสตร์ชาติในด้านการ
ปรับสมดุลและพัฒนาระบบการบริหารจัดการภายใต้หลักธรรมาภิบาลในองค์ประกอบหลักความรับ
ผิดพบว่า มีค่า F เท่ากับ .72 ที่องศาความเป็นอิสระ (df) เท่ากับ 3 และมีนัยส าคัญทางสถิติ เท่ากับ
.54 (Sig. = .54) ซึ่งมากกว่านัยส าคัญทางสถิติที่ก าหนดไว้ในการวิจัย โดยสามารถแปลผลได้ว่า กลุ่ม
ตัวอย่างผู้ตอบแบบสอบถามที่มีต าแหน่งต่างกัน มีระดับการด าเนินงานตามยุทธศาสตร์ชาติในด้านการ