Page 259 - kpi20764
P. 259
258
เพราะการที่ตนได้เปิดเผยข้อมูลโดยจะได้รับการคุ้มครองจากการคุกคาม
ใดๆ ตลอดจนการสิ้นสุดสัญญาจ้างของพวกเขา อย่างไรก็ดี มาตรการ
ดังกล่าวมีข้อสังเกตว่าหากมีการบังคับใช้ภายหลังที่ข้อมูลตัวตน
ของผู้แจ้งเบาะแสไม่เป็นความลับอีกต่อไป เพราะเป็นการใช้คำาสั่งศาล
ที่ระบุตัวทั้งผู้โต้ตอบและผู้แจ้งเบาะแสเพื่อให้หยุดการกระทำาโต้ตอบ
มีข้อพิจารณาต่อไปว่า สำาหรับประเทศไทยนั้น แม้จะได้มีการ
ประกาศใช้บังคับพระราชบัญญัติคุ้มครองพยานในคดีอาญา พุทธศักราช
2546 ก็ไม่อาจนำาพระราชบัญญัติดังกล่าวมาใช้บังคับกับบุคคลผู้ให้ข้อมูล
หรือเบาะแสได้ เนื่องจากพระราชบัญญัติดังกล่าวมีวัตถุประสงค์
เพื่อรับรองสิทธิของพยานในคดีอาญาโดยเฉพาะให้ได้รับความคุ้มครอง
การปฏิบัติที่เหมาะสม และกำาหนดค่าตอบแทนที่จำาเป็นและสมควร
จากรัฐ เพราะพยานนั้นมีความสำาคัญต่อการพิสูจน์ความจริงในทาง
อรรถคดี โดยกำาหนดมาตรการทั่วไปในการคุ้มครองพยานที่อาจไม่ได้รับ
ความปลอดภัย ได้แก่ การจัดให้พยานอยู่ในความคุ้มครองตามที่เห็น
279
สมควร และในกรณีจำาเป็นอาจขอให้เจ้าพนักงานหรือตำารวจช่วยให้ความ
คุ้มครองแก่พยานตามความจำาเป็น ทั้งนี้ ต้องได้รับความยินยอมจาก
พยานด้วย รวมถึงการจัดให้พยานอยู่ในสถานที่ที่ปลอดภัย การปกปิด
280
มิให้มีการเปิดเผยชื่อหรือข้อมูลอื่นใดที่สามารถระบุตัวพยานได้ และ
สำาหรับมาตรการพิเศษในการคุ้มครองพยานได้แก่ การย้ายที่อยู่อาศัย
การจ่ายค่าเลี้ยงชีพให้แก่พยาน การดำาเนินการเปลี่ยนชื่อตัวสกุลและ
หลักฐานทางทะเบียนที่สามารถระบุตัวพยานได้ ช่วยเหลือเรียกร้องสิทธิ
279 ความปลอดภัย หมายความว่า ความปลอดภัยในชีวิต ร่างกาย อนามัย เสรีภาพ ชื่อเสียง
ทรัพย์สิน หรือสิทธิอย่างหนึ่งอย่างใดของพยาน ทั้งก่อน ขณะและหลังมาเป็นพยาน
280 พระราชบัญญัติคุ้มครองพยานในคดีอาญา พุทธศักราช 2546 มาตรา 6.
inside_WhistleBlower_c4(cs5).indd 258 13/2/2562 16:11:37