Page 153 - kpi20764
P. 153
152
ดังปรากฏในรายงานสภาคองเกรซของสหรัฐอเมริกาที่กล่าวไว้ว่า
“บ่อยครั้งที่การตอบแทนแก่ผู้ที่แจ้งข้อมูลหรือเบาะแสสำาหรับการอุทิศตน
ด้วยจิตใจและสามัญสำานักที่รับผิดชอบอย่างสูงส่ง คือ การคุกคาม ข่มขู่
และการตำาหนิติเตียน ต่อว่าด่าทอ บ่อยครั้งที่ผู้แจ้งข้อมูลหรือเบาะแส
ต้องประสบกับความ เดือดร้อนอย่างรุนแรงในอาชีพการงานและทาง
เศรษฐกิจ ความคุ้มครองต่อพนักงานหรือลูกจ้างผู้ซึ่งเปิดเผยการกระทำา
ผิดกฎหมาย ความเสียหาย และการคอร์รัปชั่นในหน่วยงานรัฐอันเป็น
หนทางที่จะนำาไปสู่ผลกระทบในการให้บริการแก่ประชาชนในอนาคต
ตามหน่วยงานของรัฐจำานวนมาก ไม่เป็นการยากเลยที่จะมีการปิดบัง
ซ่อนเร้นการกระทำาความผิดมิให้ปรากฏออกมาให้เห็นโดยไม่มีใครที่จะ
กล้าออกมาเปิดเผยความจริงไม่ว่าเมื่อใดก็ตามเมื่อมีการกระทำาความผิด
เกิดขื้นในหน่วยงานรัฐ พนักงานหรือลูกจ้างนั้นย่อมรับรู้ถึงสิ่งที่เกิดขึ้น
และย่อมทราบดีว่าบุคคลใดเป็นผู้กระทำาความผิดให้เกิดขึ้นแล้ว
ความต้องการคืออะไรที่จะทำาให้คนเหล่านั้นมั่นใจได้ว่าตนจะไม่ได้รับ
ผลร้ายจากการช่วยเปิดเผย หรือชี้ให้เห็นถึงการกระทำาอันเป็นความผิด
จากการบริหารที่ไม่ถูกต้อง เหมาะสมของหน่วยงานรัฐ” 113
จากปัญหาการบังคับใช้กฎหมาย CSRA นำามาสู่การออกกฎหมาย
Whistleblower Protection Act 1989: WPA ที่ร่างขึ้นด้วยวัตถุประสงค์
หลักเพื่อคุ้มครองสิทธิของผู้แจ้งข้อมูลหรือเบาะแส โดยเฉพาะพนักงาน
เจ้าหน้าที่ หรือลูกจ้างของรัฐ โดยมีการแยกหน่วยงานที่รับผิดชอบ
ในการรับแจ้งข้อมูลหรือเบาะแส และบังคับใช้กฎหมายเกี่ยวกับการให้
ความคุ้มครองแก่ผู้แจ้งข้อมูลหรือเบาะแส ออกมาเป็นการเฉพาะ คือ
113 WPA Senate Report 95-969 (1978) at 8.
inside_WhistleBlower_c1(cs5).indd 152 13/2/2562 16:41:44