Page 123 - kpi20764
P. 123
122
อนุสัญญาความร่วมมือระหว่างกลุ่มประเทศในอเมริกา
เพื่อต่อต้านการคอร์รัปชั่นเป็นอนุสัญญาฉบับแรกเกี่ยวกับการต่อต้าน
การคอร์รัปชั่น อนุสัญญาฉบับนี้กำาหนดพันธกรณีทางกฎหมายในระดับ
ระหว่างประเทศ แต่บรรดามาตรการคุ้มครองผู้ให้ข้อมูลตามอนุสัญญา
ฉบับนี้ได้กำาหนดให้ภาคีมีดุลยพินิจที่จะเลือกใช้ได้ตามความเหมาะสม
ซึ่งมาตรา 3 ของอนุสัญญาฉบับนี้ กำาหนดให้มีมาตรการเฉพาะ
เพื่อคุ้มครองผู้ให้ข้อมูล โดยให้ภาคีขององค์การรัฐอเมริกา (The Organization
of American States) พิจารณาเพื่อกำาหนด รักษาและเสริมประสิทธิภาพ
ซึ่งระบบการคุ้มครองเจ้าหน้าที่ของรัฐและประชาชนผู้ซึ่งรายงาน
การกระทำาที่เป็นการคอร์รัปชั่นโดยสุจริต รวมถึงการคุ้มครองอัตลักษณ์
ของบุคคล (identity) เหล่านี้ตามรัฐธรรมนูญและหลักพื้นฐานทางกฎหมาย
ในระบบกฎหมายของตน อย่างไรก็ตาม จุดอ่อนของอนุสัญญานี้ที่เห็น
ได้ชัดได้แก่ (1) บทบัญญัติเรื่องวิธีการป้องกันถูกร่างขึ้นมาโดยใช้ถ้อยคำา
ที่กินความกว้าง เพื่อให้สามารถตีความได้ในลักษณะเดียวกัน รวมไปถึง
ทำาให้สามารถปฏิบัติตามบทบัญญัติดังกล่าวได้ (2) ข้อบังคับการแทรกแซง
ธุรกิจต่างๆ จำากัดอยู่ที่บทบัญญัติการติดสินบนข้ามชาติและไม่มีมาตรฐาน
เฉพาะสำาหรับการแทรกแซง (3) ขาดมาตรการบังคับในเขตอำานาจรัฐ และ
(4) การมีบทบัญญัติที่ชัดแจ้งเกี่ยวกับข้อสงวนแม้จะใช้จริงน้อยก็ตาม
ซึ่งการที่บทบัญญัติดังกล่าวไม่มีผลผูกพันในทางกฎหมายนั่นเอง
ในปี ค.ศ. 2001 จากการสำารวจการดำาเนินการตามอนุสัญญาดังกล่าว
โดยองค์การรัฐอเมริกา พบว่าเพียงแค่ 18 เปอร์เซ็นต์ของรัฐที่ลงนาม
ในอนุสัญญาที่มีมาตรการในกฎหมายภายในของตนที่ให้ความคุ้มครอง
เจ้าหน้าที่ของรัฐหรือประชาชนผู้ซึ่งรายงานการกระทำาที่เป็นการคอร์รัปชั่น
โดยสุจริต นอกจากนี้ องค์การรัฐอเมริกาได้เริ่มดำาเนินการผลักดัน
เพื่อสนับสนุนให้ภาคีอนุวัติการตามอนุสัญญา รวมถึงการยอมรับรูปแบบ
การให้ความคุ้มครองทางกฎหมายแก่ผู้ให้ข้อมูลในประเทศของตน
inside_WhistleBlower_c1(cs5).indd 122 13/2/2562 16:41:43