Page 124 - kpi20764
P. 124
ปัญห�ก�รปรับปรุงกฎหม�ยที่มีผลใช้บังคับอยู่ต�มแนวท�งปฏิรูปประเทศไทยต�มรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ด้�นกฎหม�ยและกระบวนก�รยุติธรรม: ก�รเสริมประสิทธิภ�พ
ด้�นก�รคุ้มครองของผู้ให้ข้อมูล (Whistleblower) ที่เกี่ยวข้องกับก�รทุจริต ก�รกระทำ�ที่ไม่ชอบด้วยกฎหม�ย และก�รใช้อำ�น�จไม่ถูกต้องซึ่งกระทบต่อประโยชน์ส�ธ�รณะ 123
กล่าวโดยสรุป แม้ว่าการอนุวัติการตามอนุสัญญาจะเป็นไปได้อย่างล่าช้า
ก็ตาม อนุสัญญาฉบับนี้ยังคงเป็นอนุสัญญาฉบับแรกๆ ที่รับรองถึง
การคุ้มครองผู้ให้ข้อมูลเพื่อยับยั้งการคอร์รัปชั่น
3.1.3 อนุสัญญ�ต่อต้�นก�รรับสินบนของสำ�นักง�นกิจก�ร
ต่�งประเทศ องค์ก�รคว�มร่วมมือท�งเศรษฐกิจและก�รพัฒน�
(The OECD Convention on Combating Bribery of Foreign
Public Officials)
อนุสัญญาต่อต้านการรับสินบนของ OECD มีผลใช้บังคับปี
ค.ศ. 1999 ประกอบด้วยสองส่วน คือ ข้อบทที่กำาหนดไว้ในอนุสัญญาฉบับนี้
และคำาแนะนำา (recommendations) ในปี ค.ศ. 1997 ซึ่งได้นำาไปกำาหนด
เป็นข้อบทในอนุสัญญาดังกล่าว อนุสัญญาประกอบด้วยภาคีสมาชิกที่มา
จากรัฐสมาชิกขององค์การความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนา
จำานวน 30 ประเทศ และรัฐที่ไม่ได้เป็นภาคีองค์การจำานวน 5 ประเทศ
โดยได้ยอมรับข้อบททั้งสองส่วน วัตถุประสงคำโดยรวมของอนุสัญญา
ฉบับนี้ คือ การป้องกันการรับสินบนในการทำาธุรกรรมทางธุรกิจระหว่าง
ประเทศ และประสงค์ให้ภาคีกำาหนดให้การรับสินบนของเจ้าหน้าที่
ในกิจการระหว่างประเทศเป็นความผิดอาญาซึ่งครอบคลุมถึงบุคคล
หรือองค์กรที่เสนอ หรือให้สินบน แต่ไม่ครอบคลุมถึงสินบนที่จ่ายให้
กับเอกชนหรือจ่ายให้กับเจ้าหน้าที่ของรัฐอย่างมีเหตุผลนอกเหนือจาก
การให้ได้รับประโยชน์ในทางธุรกิจ หรือเพื่อให้ได้รับประโยชน์ทางธุรกิจ
ระหว่างประเทศอย่างไม่เหมาะสม อนุสัญญาดังกล่าวไม่ได้กำาหนด
พันธกรณีให้ภาคีคุ้มครองผู้ให้ข้อมูลไว้เป็นการทั่วไป แต่อย่างไรก็ตาม
คำาแนะนำา (recommendations) ในปี ค.ศ. 1997 กำาหนดให้ภาคีนำากลไก
การเสริมสร้างให้ผู้ตรวจสอบบัญชี (auditor) กล้าที่จะรายงานการรับสินบน
มากำาหนดไว้ในกฎหมายภายในของตน โดยกำาหนดให้ประเทศสมาชิก
inside_WhistleBlower_c1(cs5).indd 123 13/2/2562 16:41:43