Page 106 - kpi20764
P. 106

ปัญหาการปรับปรุงกฎหมายที่มีผลใช้บังคับอยู่ตามแนวทางปฏิรูปประเทศไทยตามรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ด้านกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม: การเสริมประสิทธิภาพ
             ด้านการคุ้มครองของผู้ให้ข้อมูล (Whistleblower) ที่เกี่ยวข้องกับการทุจริต การกระทำาที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย และการใช้อำานาจไม่ถูกต้องซึ่งกระทบต่อประโยชน์สาธารณะ  105

                    วิธีพิจารณาความมีโทษสำาหรับใช้ไปพลางก่อน ร.ศ. 115 โดยใช้
                    พระราชบัญญัติให้ใช้ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งและ

                    พระราชบัญญัติให้ใช้ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา พุทธศักราช
                    2477 แทน  สิทธิประการแรกที่พยานได้รับตามกฎหมายใหม่นี้ คือ
                              60
                    สิทธิที่จะให้การโดยสมบูรณ์ปราศจากการขัดขวางโดยมิชอบ ต่อมาปี

                    พุทธศักราช 2505 กรมตำารวจได้ออกประมวลระเบียบการตำารวจเกี่ยวกับ
                    คดีซึ่งมีบทว่าด้วยการคุ้มครองพยานอยู่ในลักษณะ 8 การสอบสวน

                    หมวดที่ 6 การคุมพยานและการป้องกันพยานสำาคัญในคดีอาญา
                    โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อคุ้มครองพยานในคดีอาญาให้ไปเบิกความต่อศาล
                    โดยไม่ถูกคุกคามขู่เข็ญ แต่ให้ความคุ้มครองพยานที่เป็นประชาชนทั่วไป

                    ไม่คุ้มครองพยานที่เป็นข้าราชการประจำา ทหาร และตำารวจประจำาการ
                                                                                61



                    60  สมทรัพย์ อำานวย. (2541). บทบาทของศาลในชั้นพิจารณากับการค้นหาความจริง
                    ในคดีอาญา. น. 28.
                    61  ประมวลระเบียบการตำารวจเกี่ยวกับคดีลักษณะ 8 บทที่ 6 ข้อ 255 ด้วยปรากฏว่า
                    คดีอาญาบางคดีในชั้นสอบสวนปรากฏข้อเท็จจริงและพยานหลักฐานว่ามีมูลความผิด
                    จนพนักงานอัยการได้สั่งฟ้องและยื่นฟ้องต่อศาลแล้ว แต่ในระหว่างการพิจารณาคดีของ
                    ศาล ได้มีหมายเรียกพยานหรือผู้เสียหายไปเบิกความ พนักงานสอบสวนไม่สามารถดำาเนิน
                    การติดตามพยานหรือผู้เสียหายไปเบิกความได้เพราะพยานไม่มีที่อยู่เป็นหลักแหล่ง หรือ
                    พนักงานสอบสวนจดที่อยู่ของพยานไม่ละเอียดชัดเจนหรือเพิกเฉยจงใจไม่ติดตามพยาน
                    หรือพยานบิดพลิ้ว ไม่เต็มใจไปเบิกความ หรือถูกคุกคามขู่เข็ญ หรือได้รับผลประโยชน์
                    เป็นเหตุให้คดีขาดพยานหลักฐาน ทำาให้ศาลต้องพิพากษายกฟ้อง เกิดความเสียหาย
                    แก่คดี ฉะนั้น จึงให้พนักงานสอบสวนและผู้เกี่ยวข้องรับผิดชอบถือปฏิบัติ ดังต่อไปนี้.
                    1. พนักงานสอบสวนต้องสอบสวนตำาบลที่อยู่ของพยานซึ่งไม่ใช่ข้าราชการประจำา ทหาร
                    หรือตำารวจประจำาการให้ได้ความแน่ชัดว่ามีที่อยู่ที่แท้จริงและชั่วคราวว่าอยู่ที่ใด สถานที่
                    ทำางาน หรือสถานที่อื่นที่อาจติดต่อได้ หมายเลขโทรศัพท์ที่ทำางานและที่บ้าน รวม
                    ทั้งบันทึกบัตรประจำาตัวไว้และควรตรวจสอบว่ามีถิ่นที่อยู่ดังปรากฏในคำาให้การจริง
                    หรือไม่ โดยวิธีไปดูให้รู้ถึงที่อยู่ของพยานและต้องคอยติดตามสอดส่องอยู่เสมอ ทั้งนี้
                    ให้ลงบันทึกประจำาวันไว้เป็นหลักฐานทุกครั้งเพื่อให้ได้ตัวพยานมาเบิกความยังศาล








         inside_WhistleBlower_c1(cs5).indd   105                               13/2/2562   16:41:42
   101   102   103   104   105   106   107   108   109   110   111