Page 21 - kpi19910
P. 21
11
ส่วนร่วมของประชาชนและสิ่งแวดล้อมคือ หลักการที่ 10 ซึ่งก าหนดว่ารัฐจะต้องให้ประชาชนทุกภาค
ส่วนเข้าถึงข้อมูลข่าวสารประเด็นสิ่งแวดล้อม และกระตุ้นให้ประชาชนเกิดความตระหนักและเข้ามามี
ส่วนร่วมในกระบวนการการตัดสินใจในการด าเนินโครงการ และหลักการที่ 17 ที่ระบุว่าต้องมี
การศึกษาผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ส าหรับกิจกรรมที่จะมีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมที่มีนัยส าคัญ แม้
ภาครัฐจะให้ความส าคัญกับการมีส่วนร่วมของประชาชนมาเป็นเวลาเกือบ 20 ปี แต่เราก็ยังคงเห็นการ
ไม่ยอมรับการคัดค้านด้านการพัฒนาโครงการของรัฐจากประชาชนผู้ได้รับผลกระทบอยู่เสมอมา
โดยเฉพาะอย่างยิ่งในโครงการขนาดใหญ่ ปัญหาในการด าเนินการมีส่วนร่วมของประชาชนนั้น มีทั้ง
ปัญหาจากภาครัฐและภาคประชาชน ไม่ว่าจะเป็นความไม่เข้าใจกันเรื่องรูปแบบและเทคนิคการมีส่วน
ร่วม ความไม่ไว้วางใจของประชาชนในการด าเนินโครงการของรัฐ กลุ่มอิทธิพลที่มีบทบาทสูงในการ
ควบคุมประชาชนในพื้นที่ หรือแม้กระทั่งการที่หน่วยงานเจ้าของโครงการไม่ให้ความส าคัญที่แท้จริงใน
การรับฟังความคิดเห็นของประชาชน จัดงบประมาณไม่สอดคล้องกับกิจกรรมที่จะต้องด าเนินการ การ
วิเคราะห์กลุ่มเป้าหมายในการรับฟังความคิดเห็นไม่ครอบคลุมผู้ได้รับผลกระทบที่แท้จริง (พิมพ์ใจ
ยุทธบรรดล, 2554) และวิธีการจัดการความขัดแย้งแบบมีส่วนร่วม มีขั้นตอนที่ส าคัญสรุปได้ 3 ขั้นตอน
คือ (มนตรี ศิลป์มหาบัณฑิต, 2555) 1) ขั้นตอนก่อนเริ่มกระบวนการ กล่าวคือ เป็นขั้นตอนของการ
ประเมินสถานการณ์และลักษณะความขัดแย้งว่า มีความเหมาะสมที่จะใช้กระบวนการนี้ได้หรือไม่
กระบวนการในการน าบุคคลหรือกลุ่มผลประโยชน์ที่เกี่ยวข้องทุกฝ่ายเข้ามาสู่กระบวนการ การท างาน
ร่วมกับบุคคลที่เป็นกลางที่จะท าหน้าที่ช่วยเหลือการสนทนาเจราจาในการวางแผนการท างาน การ
ก าหนดกระบวนการและการตั้งกฎกติกาพื้นฐาน 2) ขั้นตอนระหว่างการด าเนินการ กล่าวคือ เป็น
ขั้นตอนในการเจรจาแก้ไขปัญหาหรือความขัดแย้ง ซึ่งเริ่มจากการแลกเปลี่ยนข้อมูลซึ่งกันและกัน
การก าหนดขอบเขตของประเด็นปัญหาที่จะเจราจา การสนทนาเจรจา การค้นหาทางเลือกของการ
แก้ไขปัญหาต่าง ๆ ที่เป็นไปได้และการประเมินทางเลือกต่าง ๆ เหล่านั้น การเจรจาข้อตกลงที่เป็นที่
ยอมรับได้ และการสร้างการยอมรับของบุคคลที่เกี่ยวข้อง และ 3) ขั้นตอนหลังกระบวนการ กล่าวคือ
การปฏิบัติตามข้อตกลง ซึ่งหมายถึง กระบวนการท าให้ข้อตกลงนั้นสามารถบังคับได้ในแบบพิธีการ
น าไปปฏิบัติ และการติดตามผลการปฏิบัติตามข้อตกลง วิธีการจัดการความขัดแย้งแบบมีส่วนร่วมนี้
ต้องอาศัยปัจจัยหลายประการ จึงจะสามารถน าไปสู่ตกลงที่ยอมรับได้ของทุกฝ่าย ดังนั้น ไม่ใช่ว่าความ
ขัดแย้งทุกประเภทที่จะสามารถใช้วิธีการนี้ได้
ลักษณะของความขัดแย้งที่เหมาะสม ดังนี้ (มนตรี ศิลป์มหาบัณฑิต, 2555)
1. ความขัดแย้งที่มีประเด็นที่สามารถเจรจาต่อรองได้ และไม่ใช่ประเด็นที่เกี่ยวกับสิทธิตาม
รัฐธรรมนูญ หรือคุณค่าพื้นฐานทางสังคม
2. ประโยชน์ที่ขัดแย้งกันนั้นสามารถแยกแยะออกมาได้ชัดเจน และจัดความส าคัญได้
พอที่จะให้เข้าร่วมกระบวนการได้สนทนาและเจรจาได้อย่างมีประสิทธิภาพ