Page 342 - kpi19903
P. 342
305
ผลจากการวิจัยนี้ไม่อาจจะชี้ชัดได้ว่าความสอดคล้องระหว่างพรรคการเมืองที่เลือกกับความพึงพอในใน
ผลงานรัฐบาลหรือนโยบายสาธารณะเกิดจากแนวทางอธิบายที่หนึ่งหรือที่สองข้างต้น เพราะมีความเป็นไปได้ทั้ง
สองทาง โดยเฉพาะแนวทางนั้นมีความเป็นไปได้ค่อนข้างสูงเช่นกันเนื่องจากคะแนนนโยบายสาธารณะทุกด้านของ
พรรคการเมืองที่ตนเองเลือกและชอบจะสูงกว่าและดีกว่าอีกพรรคการเมืองไปทุกด้านซึ่งยากที่จะเป็นไปได้ในความ
เป็นจริงที่พรรคการเมืองจะมีนโยบายสาธารณะหรือผลงานที่ดีไปทุกด้าน ท าให้เห็นว่าน่าจะเกิดจากอคติมากกว่า
อรรถประโยชน์
18.2.6 อภิปรายความสัมพันธ์ระหว่างตัวแปรทางจิตวิทยาสังคมกับผลการเลือกตั้ง
การศึกษานี้ในการวิเคราะห์ระดับบุคคลเราค้นพบตัวแปรทางจิตวิทยาสังคมสองตัวแปรที่อธิบายผลการ
เลือกตั้งได้ดีมากคือ หนึ่ง การมีนักการเมือง/พรรคการเมืองที่เป็นตัวแทนความคิดและสองความคาดหวังว่าผู้สมัคร
ที่ตนเลือกจะได้รับชัยชนะ ซึ่งทั้งสองท านายได้ทั้งความตั้งใจในการออกไปสิทธิเลือกตั้งในบทที่ 6 ปัจจัยสัมพันธ์กับ
ความตั้งใจที่จะไปลงคะแนนเสียงเลือกตั้งของคนไทย และพรรคการเมืองที่เลือกในบทที่ 7 ความคาดหวังที่ผู้สมัคร
จะชนะเลือกตั้งก ากับความสัมพันธ์ระหว่างตัวแทนความคิดทางการเมืองและตัวเลือกในการเลือกตั้งในประเทศไทย
และบทที่ 17 ตัวแบบท านายผลการเลือกตั้ง: การวิเคราะห์ระดับบุคคล
ข้อสรุปส าคัญคือ คนไทยจะเลือกคนที่เป็นตัวแทนความคิดทางการเมืองของตนและมีแนวโน้มว่าจะชนะ
ด้วย ส าหรับคนไทยนั้น อุดมการณ์ทางการเมืองเป็นเรื่องส าคัญ แต่ชัยชนะทางการเมืองนั้นส าคัญไม่ยิ่งหย่อนไป
กว่ากันและอาจจะส าคัญมากกว่าด้วยซ้ า โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่ออุดมการณ์ทางการเมืองจะกลายเป็นการเสียของ
ไป เหตุผลที่ชัยชนะทางการเมืองนั้นส าคัญส าหรับประชาชนนั้นอาจจะมีสาเหตุเนื่องมาจากการได้รับชัยชนะทาง
การเมืองท าให้สามารถเข้าสู่อ านาจรัฐเมื่อมีอ านาจรัฐก็อาจจะด าเนินนโยบายสาธารณะที่สร้างอรรถประโยชน์
ให้กับฐานคะแนนเสียงของตนอันเป็นไปตามกลไกของเศรษฐศาสตร์ว่าด้วยการเมืองและการเลือกตั้ง (Downs,
1957a) ดังนั้นหากเป็นไปได้ประชาชนผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งเองก็อยากจะเลือกผู้สมัครที่เป็นตัวแทนความคิดทาง
การเมือง ของตนซึ่งอธิบายได้ด้วยทฤษฎีอัตลักษณ์ทางสังคม (Social Identity theory) (H. Tajfel & J. C.
Turner, 1986; J. C. Turner & P. Oakes, 1986) แต่ในขณะเดียวกันก็อยากให้คนที่ตนชื่นชอบนั้นชนะการ
เลือกตั้งด้วยเพื่อให้ตนเองมีโอกาสที่จะได้รับอรรถประโยชน์ทางการเมืองสูงสุดเท่าที่จะท าได้เช่นกัน โดยมีความ
คาดหวังที่ผู้สมัครจะชนะเลือกตั้งเป็นตัวแปรก ากับความสัมพันธ์ระหว่างสองตัวแปร ซึ่งอธิบายได้ด้วยทฤษฎีปัญญา
สังคม (Social cognitive theory) (Albert Bandura, 1986, 1997) และความเชื่อในความสามารถของตนว่าท า
ได้ (Albert Bandura, 1977, 1978, 1982, 1997) ต้องมั่นใจว่าจะควบคุมให้เกิดพฤติกรรมนั้นได้และเกิดผลลัพธ์
ตามที่ใจคาดหวังจึงจะลงมือท าพฤติกรรม (I. Ajzen, 1985, 1992, 2012) ตามทฤษฎีการกระท าตามแผน