Page 337 - kpi19903
P. 337

300



               แตกต่างกันมากอาจจะเกิดปัญหาในการวิเคราะห์ความสัมพันธ์และอาจน าไปสู่ความย้อนแย้งกันได้อันอาจจะเป็น
               ผลเนื่องจากข้อจ ากัดของพิสัย (Millsap, 1989; Sackett & Yang, 2000; Sakworawich & Lewis, 2012)

                       ประการที่สี่ ความย้อนแย้งอาจจะเกิดจากความย้อนแย้งซิมป์สัน (Simpson Paradox) ซึ่งเกิดขึ้นเมื่อ

               พิจารณาความสัมพันธ์ระหว่างสองตัวแปรโดยพิจารณาแต่เพียงการแจกแจงขอบ (Marginal distribution) แทนที่
               จะพิจารณาจากการแจกแจงแบบมีเงื่อนไข (Conditional distribution) ซึ่งได้วิเคราะห์ตัวแปรที่สามเข้าไปเป็นชั้น

               ภูมิ (Stratum) แล้วจึงพิจารณาความสัมพันธ์ระหว่างสองตัวแปร กรณีนี้เคยมีเหตุฟ้องร้องในศาลสูงสหรัฐอเมริกา

               ว่ามหาวิทยาลัยคาลิฟอร์เนียเบิร์กเลย์เลือกปฏิบัติทางเพศ โดยตัดสินใจรับผู้สมัครเพศชายมากกว่า แต่เมื่อพิจารณา
               ไปทีละภาควิชากลับไม่พบว่าเป็นเช่นนั้น เพราะแทบทุกภาควิชาในมหาวิทยาลัยคาลิฟอร์เนียเบิร์กเลย์ให้โอกาส

               ผู้หญิงได้เข้าศึกษาต่อมากกว่า แต่เนื่องจากมหาวิทยาลัยมีภาควิชาที่เป็นสาขาวิชาที่เป็นที่นิยมของนักเรียนชาย

               มากกว่านักเรียนหญิงท าให้เกิดความย้อนแย้งดังกล่าว (Bickel, Hammel, & O'Connell, 1975)
                       ในการเลือกตั้งหากมีตัวแปรอื่นเข้ามาเป็นตัวแปรที่สามเช่นเดียวกันกับภาควิชาก็ท าให้เกิดความย้อนแย้ง

               ดังกล่าว ผลการวิเคราะห์แยกชั้นภูมิเฉพาะเขตเลือกตั้งในภาคใต้ท าให้ขจัดอิทธิพลของภูมิภาคนิยมออกไปแล้วจึง

               พบความสัมพันธ์ระหว่างร้อยละของประชาชนในเขตเลือกตั้งที่นับถือศาสนาอิสลามกับร้อยละของประชาชนในเขต
               เลือกตั้งที่เลือกพรรคประชาธิปัตย์ แท้จริงแล้วนั้นสัมพันธ์ทางลบ อันขัดแย้งกับผลการวิเคราะห์ระดับบุคคลที่พบว่า

               ประชาชนที่นับถือศาสนาอิสลามมีแนวโน้มจะเลือกพรรคประชาธิปัตย์ ดังนั้นในกรณีนี้จึงสามารถน า Simpson

               paradox มาใช้อธิบายได้เช่นกัน


                       18.2.3 อภิปรายพฤติกรรมและผลการเลือกตั้งในอดีตท้านายผลการเลือกตั้งครั้งล่าสุด

                       นักจิตวิทยากล่าวว่าตัวท านายพฤติกรรมในอนาคตที่ดีที่สุดคือพฤติกรรมในอดีต (The best predictor of
               future behaviour is past behaviour) ผลการศึกษานี้ก็พบเช่นเดียวกันว่าผลการเลือกตั้งในอดีตสามารถท านาย

               ผลการเลือกตั้งล่าสุดได้ค่อนข้างดีเช่นกันโดยเฉพาะพรรคการเมืองขนาดใหญ่ และพฤติกรรมการใช้สิทธิเลือกตั้งใน

               อดีตสามารถท านายพฤติกรรมการใช้สิทธิเลือกตั้งล่าสุดได้ดีที่สุดเช่นกัน
                       อย่างไรก็ตามการศึกษานี้ไม่มีข้อมูลพฤติกรรมในอดีตของแต่ละบุคคลท าให้ไม่สามารถวิเคราะห์

               ความสัมพันธ์ระหว่างพฤติกรรมการเลือกตั้งในอดีตและพฤติกรรมการเลือกตั้งล่าสุดในระดับบุคคลได้ มีแต่การ

               วิเคราะห์ระดับเขตเลือกตั้งเท่านั้น ซึ่งหากมีข้อมูลส าหรับการวิเคราะห์ระดับบุคคลน่าจะมีค่าสหสัมพันธ์ที่สูง
               มากกว่าการวิเคราะห์ระดับเขตเลือกตั้งเนื่องจากพฤติกรรมการเลือกตั้งนั้นเป็นตัวแปรระดับบุคคลเมื่อน ามา

               aggregate เป็นผลเลือกตั้งจึงเป็นตัวแปรระดับเขตเลือกตั้งอาจจะเกิด aggregation bias ได้

                       ทั้งนี้พฤติกรรมการเลือกตั้งในอดีตเป็นตัวแปรที่ดีที่สุดในการท านายผลการเลือกตั้ง โดยการเลือกตั้งปี
               2554 เขตเลือกตั้งแต่ละเขตยังคงเลือกพรรคเดิมเช่นเดียวกับการเลือกตั้งที่ผ่านมา พฤติกรรมนี้พบในทุกพรรค

               การเมืองรวมถึงพฤติกรรมการใช้สิทธิ์เลือกตั้งด้วย แม้ว่าเขตเลือกตั้งที่เลือกพรรคเพื่อไทยจะมีสัดส่วนลดลงในปี
   332   333   334   335   336   337   338   339   340   341   342