Page 175 - kpi19903
P. 175
147
พรรคชาติไทย และชื่นชอบนายบรรหาร ก็เป็นคนที่ประกอบอาชีพที่ไม่ใช้แรงงานในการท างาน เช่นเดียวกัน ส่วน
คนที่ประกอบอาชีพใช้แรงงานนั้นมีความคิดที่จะเลือกพรรคมัชฌิมาธิปไตย (อรรถสิทธิ์ พานแก้ว, 2556a)
ความแตกต่างของเศรษฐกิจและสังคม อันได้แก่ รายได้ รายจ่าย การศึกษา สถานภาพการท างาน และ
อาชีพ น่าจะมีความสัมพันธ์กับผลการเลือกตั้งปี 2554 การศึกษานี้คาดหวังว่าตัวแปรที่กล่าวมานี้จะเป็นตัวบ่งชี้
พฤติกรรมการเมืองอันเกิดจากความแตกต่างกันของสถานภาพทางเศรษฐกิจและสังคมของผู้มีสิทธิ์เลือกตั้ง ที่ท าให้
คนมีวัฒนธรรม ประสบการณ์ ทัศนคติ ค่านิยม และเป้าหมายต่างกัน นอกจากนี้การศึกษาหรือความรู้เป็นลักษณะ
อีกประการหนึ่งที่มีอิทธิพลต่อผู้รับสาร การที่คนได้รับการศึกษาในยุคสมัย หรือระบบการศึกษาที่ต่างกันย่อมมี
ความรู้สึกนึกคิดอุดมการณ์ และความต้องการที่แตกต่างกัน (กิติมา สุรสนธิ, 2541) ซึ่งลักษณะเหล่านี้อาจสะท้อน
ให้เห็นถึงพฤติกรรมการเลือกตั้งด้วย เราจึงวิเคราะห์ความสัมพันธ์ระหว่างสถานภาพทางเศรษฐกิจและสังคมกับผล
การเลือกตั้งแบบแบ่งเขตเลือกตั้งและพฤติกรรมการใช้สิทธิ์เลือกตั้ง
ข้อมูลที่ใช้ในการศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างปัจจัยทางสังคมและเศรษฐกิจกับผลการเลือกตั้งซึ่งเป็นการ
วิเคราะห์ระดับเขตเลือกตั้งน ามาจากสองส่วน
ส่วนแรกคือผลการเลือกตั้งของแต่ละเขตเลือกตั้งน ามาจากฐานข้อมูลของส านักงานคณะกรรมการการ
เลือกตั้ง (ส านักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง, 2554b, 2556)
ส่วนที่สอง ข้อมูลปัจจัยทางสังคมและเศรษฐกิจมาจากฐานข้อมูลการส ารวจระดับชาติน ามาจากส านักงาน
สถิติแห่งชาติ จากฐานข้อมูลความยากจนและการส ารวจสถานทางสังคมเศรษฐกิจ (ส านักงานสถิติแห่งชาติ, 2554;
ส านักสถิติพยากรณ์ ส านักงานสถิติแห่งชาติ กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร, 2555)
การวิเคราะห์พฤติกรรมการเลือกตั้งในบทนี้ใช้การวิเคราะห์ถดถอยเชิงพื้นที่ตามหัวข้อ 3.4 การวิเคราะห์
พยากรณ์ผลการเลือกตั้งระดับเขตพื้นที่ด้วยการวิเคราะห์ถดถอยเชิงพื้นที่ ที่ได้อธิบายไปแล้วในบทที่ 3 ซึ่งจะได้
เปรียบเทียบผลการวิเคราะห์ค่าสหสัมพันธ์อย่างง่ายด้วยด้วยวิธีก าลังสองน้อยสุด (Ordinary least square: OLS)
ซึ่งไม่ได้ค านึงถึงสหสัมพันธ์เชิงพื้นที่ มีตัวแปรตามคือผลการเลือกตั้งล่าสุด และมีตัวแปรต้นคือสถานภาพทางสังคม
เศรษฐกิจอันได้แก่ รายได้ การศึกษา และอาชีพ ส าหรับการวิเคราะห์ถดถอยเชิงพื้นที่จะมีตัวแปรต้นอีกหนึ่งตัวคือ
ค่าสหสัมพันธ์เชิงพื้นที่ซึ่งค านวณจาก Spatial error โดยให้ค่าความคลาดเคลื่อนคูณกับน้ าหนักถ่วงเชิงพื้นที่ ทั้งนี้
เพื่อควบคุมหรือน าสหสัมพันธ์เชิงพื้นที่ออกไป (partial out) เพื่อให้เข้าใจความสัมพันธ์ที่แท้จริงระหว่างสถานภาพ
ทางสังคมเศรษฐกิจกับพฤติกรรมการเลือกตั้งได้ชัดเจนมากยิ่งขึ้น
การน าเสนอผลการวิจัยจะน าเสนอตามล าดับดังนี้ 10.1 รายได้และรายจ่ายกับผลการเลือกตั้งในระดับ
พื้นที่ 10.2 อาชีพกับผลการเลือกตั้งในระดับพื้นที่ 10.3 สถานภาพการท างานกับผลการเลือกตั้งในระดับพื้นที่
10.4 ระดับการศึกษากับผลการเลือกตั้งในระดับพื้นที่ และ 10.5 การเปรียบเทียบปัจจัยทางสังคมและเศรษฐกิจกับ
ผลการเลือกตั้งในระดับบุคคลและระดับเขตเลือกตั้ง