Page 240 - kpi18358
P. 240
เท่ากับว่าเป็นเพียงจ านวนคนไม่กี่คนคิดประเด็นส าหรับการวางแผน ท าให้การเสนอประเด็นการตรวจนั้นไม่
มีทิศทาง เช่น เรื่องขยะ ที่ส านักนายกฯ ท าประเด็นขึ้นมาทั้งที่ไม่เชี่ยวชาญ คนที่รู้อาจจะเป็นกระทรวง
ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
1.2 ปรับปรุงโครงสร้างระบบตรวจราชการ
ปัญหาเรื่องการตรวจราชการอย่างหนึ่งคือรายงาน ผู้ที่ท ารายงานจะมีงานเยอะมาก มีงานตรวจ
ราชการ งานธรรมาภิบาลจังหวัด งานก ากับภูมิภาคของรองรับนายก ฯลฯ ท าให้เวลาในการศึกษาหาข้อมูลมา
สนับสนุนจึงไม่ค่อยมีเพราะปริมาณงานมีมากเกินก าลังคน แต่เดิมมีเฉพาะงานตรวจแบบบูรณาการจนในปี
2551 ที่เริ่มมี กธจ.ท าให้เป็นงานเข้ามาที่ผู้ช่วยผู้ตรวจราชการ ผู้ช่วยฯ จึงไม่ค่อยมีโอกาสศึกษาหาความรู้
ประกอบการท ารายงานให้มีคุณภาพได้ และงานด่วนที่เข้ามาจึงต้องจัดการงานด่วนนั้นก่อน
ขอให้วิเคราะห์ปริมาณงานกับอัตราก าลังคน อยากมีโอกาสพัฒนาแต่ไม่มีเวลา
งานที่ไม่ควรเป็นของผู้ช่วยผู้ตรวจเลย (งานฝากแต่ก็เป็นนโยบาย) เช่น โรงเรียนคุณธรรม ธพจ. เมื่อ
มีการขอให้แก้ไขปัญหาใด ๆ ก็มักมาตกอยู่ที่ส านักตรวจราชการ ส านักนายกรัฐมนตรี ไม่มีกลไกกลั่นกรอง
งานให้ตรงกับภารกิจหลักของแต่ละฝ่าย งานของ สปน. บางงานมักถูกส่งมาที่ส านักตรวจราชการ ทั้งที่ควร
เป็นของฝ่ายอื่นในส านักนายกรัฐมนตรี
งานธุรการของเขตการตรวจราชการมีมากแม้จะมีผู้ช่วยเข้ามาให้แล้วเขตละ 1 คน แต่ก็ยังคงไม่
เพียงพอกับเนื้องาน เช่น การเบิกจ่ายงบประมาณที่ต้องการความละเอียด
1.3 การพัฒนาศักยภาพและความเชี่ยวชาญในงานตรวจราชการ
ต้องให้ผู้ตรวจราชการประจ าแต่ละเขตอย่างน้อย 2 ปี ป้ องกันปัญหาการย้ายผู้ช่วยผู้ตรวจราชการ
ตามผู้ตรวจราชการไป
การเป็นผู้ช่วยผู้ตรวจเข้ามาแล้วก็มีการพัฒนาโดยการไปอบรม แต่ไม่สามารถไปเป็นผู้ตรวจราชการ
ได้ ผู้ช่วยฯ เป็นต าแหน่งสายวิชาการ ส่วนผู้ตรวจราชการเป็นสายบริหาร การที่ผู้ช่วยผู้ตรวจจะเป็นผู้ตรวจ
ราชการได้ ต้องย้ายมาสายอ านวยการ ผ่านต าแหน่งบริหารระดับต้นก่อนแล้วจึงเป็นผู้ตรวจราชการซึ่งถือ
เป็นต าแหน่งบริหารระดับสูงได้
ระเบียบ ก.พ.เป็นอุปสรรคส าคัญต่อการเคลื่อนย้ายสายงานและยังเป็นอุปสรรคในการเข้าอบรมใน
หลักสูตรการพัฒนาศักยภาพต่างๆ ของผู้ช่วยฯ เพราะติดขัดเรื่องคุณสมบัติ
การพัฒนาผู้ช่วยผู้ตรวจเพื่อความเป็นมืออาชีพ ส่วนใหญ่เป็นหลักสูตรฝึกอบรม
197