Page 242 - kpi18358

1.5 พัฒนากลไกการมีส่วนร่วมจากภาคประชาชนเพื่อบทบาทเชื่อมโยงพื้นที่กับระบบงานตรวจราชการ

 ที่ปรึกษาผู้ตรวจราชการภาคประชาชน ช่วยสะท้อนปัญหาในเชิงพื้นที่ให้ทราบ สะท้อนสิ่งที่

ประชาชนต้องการจริงคืออะไร แต่ควรคัดเลือกด้วยเพราะบางคนมีลักษณะเป็น NGOs ป่วนมากกว่าให้
ข้อเสนอแนะ ที่ปรึกษาฯภาคประชาชนก็คิดว่ากระทรวงไม่ค่อยให้ความส าคัญกับที่ปรึกษาฯ ภาคประชน

เท่าไหร่ บางกระทรวงมีข้อจ ากัดงบประมาณจึงไม่ได้เชิญที่ปรึกษาฯภาคประชาชนครบทุกด้าน ถ้าคนที่เข้า

มาเป็นที่ปรึกษาฯภาคประชาชนแล้วจ้องจับผิดก็ไม่เหมาะสม วิธีการคัดเลือกควรปรับกลไกหรือวิธีการเพื่อ

คัดสรรคน เพราะบางเขตต่อต้านและคิดว่าเจ้าหน้าที่รัฐทุจริตตลอดเวลาจนผู้ตรวจราชการต้องคอยก ากับ

เรื่องการใช้ค าพูดและการแสดงออก

2. ระบบและกลไกการสนับสนุนการตรวจราชการของผู้ตรวจราชการส านักนายกรัฐมนตรีและหน่วย

สนับสนุนฯ

2.1 ระบบเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อการสื่อสารสาธารณะ มุ่งเน้นธรรมาภิบาลในระบบตรวจราชการ

ด้านความโปร่งใส และการมีส่วนร่วม ลดความซ ้าซ้อน เป็นกลไกการส่งต่อข้อมูล/ข้อค้นพบ และมีช่องทาง

การรับแจ้งข้อมูลที่น่าเชื่อถือและมั่นใจได้

 ในการท างานข้อมูลมาจากหลายแหล่ง เมื่อจะใช้ข้อมูลสารสนเทศจากหน่วยงานต่าง ๆ ก็ต้องน ามา

พัฒนาเป็นข้อมูลในส่วนของตัวเอง ซึ่งก็ต้องใช้เวลา ฐานข้อมูลของหน่วยงานอื่นบางครั้งก็ไม่เป็นปัจจุบันก็

ไม่สามารถเข้าไปดูได้และต้องถามจากหน่วยงานนั้น เช่นข้อมูลเกี่ยวกับงบประมาณ ที่หลายครั้งไปลงตรวจ

ก็ต้องเร่งรัดหน่วยงานให้ช่วยกรอกข้อมูล

 หลังจากการตรวจไม่มีการเก็บข้อมูลการท างานไว้เป็นฐานข้อมูล

 ผู้ช่วยท างานบนฐานข้อมูลที่ไม่ได้อยู่กับตัวเองเลย เช่น การตรวจติดตามกองทุนหมู่บ้านห้าแสน

บาท ที่แม้มีการตรวจแต่ก็ไม่สามารถตรวจได้ครบ เพราะข้อมูลอยู่กับกระทรวงอื่น โดยกระทรวงเจ้าของ

ข้อมูลเองบางครั้งก็มีข้อมูลไม่ครบ

2.2 กลไกการเสริมสร้างศักยภาพ ความตระหนักรู้ในคุณค่าและความส าคัญ และการพัฒนาความ

ร่วมมือของทีมตรวจราชการ

 การตรวจบูรณาการหน่วยงานอื่นไม่อยากเข้ามาเกี่ยวข้องเพราะได้ตรวจงานกระทรวงของตนเองอยู่

แล้ว บางประเด็นตรวจส านักนายกรัฐมนตรีไปตรวจก็ซ ้าซ้อน

 การตรวจแบบบูรณาการที่ผ่านมาเป็นลักษณะของการขอความร่วมมือมากกว่า ไม่ได้มีผลบังคับและ

ไม่ได้เป็นตัวชี้วัดของหน่วยงานอื่น จึงท าให้ไม่เกิดความร่วมมือ

199