Page 180 - kpi17968
P. 180
169
น้อย (สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย, 2014) และผู้สูงอายุที่มีฐานะ
ยากจน (รัฐสภา, ม.ป.ป.)
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าประเทศไทยมีการดำเนินนโยบายสาธารณะเพื่อสร้าง
ความยุติธรรมและทั่วถึงมาหลายสิบปี ยังมีปัญหาในการดำเนินนโยบายลักษณะ
ดังกล่าวในแง่มุมของความไม่เท่าเทียมกันในการเข้าถึงโครงการช่วยเหลือของ
ภาครัฐ โครงการรับจำนำข้าวเปลือกและโครงการเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุเป็น
สองโครงการที่สะท้อนปัญหาความไม่เท่าเทียมกันในการเข้าถึงโครงการและ
การช่วยเหลือของรัฐบาลประเทศไทยยังมีปัญหาความยากจนที่กระจุกตัวอยู่ใน
ภาคเกษตรกรรม แรงงานนอกระบบ และกลุ่มคนใกล้จน ซึ่งคิดเป็นร้อยละ 15.3
ของประชากรทั้งประเทศ (สุวิทย์ เมษินทรีย์, 2556: 60) นอกจากนี้
การกระจายรายได้ของประเทศไทยกลับไม่ได้ปรับตัวดีขึ้นในช่วงเวลาดังกล่าว โดย
ประชากรกลุ่มที่ยากจนที่สุดร้อยละ 20 ยังมีสัดส่วนรายได้อยู่ประมาณร้อยละ
4.6 ของรายได้ทั้งหมดของคนทั้งประเทศ ขณะที่ประชากรกลุ่มที่ร่ำรวยที่สุด
ร้อยละ 20 มีสัดส่วนของรายได้อยู่ประมาณร้อยละ 54 ของรายได้ทั้งหมด หรือ
มากกว่าครึ่งหนึ่งของรายได้ทั้งประเทศ (กอบศักดิ์ ภูตระกุล, 2556: 6) ความ
ยากจนและความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจดังกล่าว นำไปสู่ปัญหาความไม่เท่าเทียมกัน
ในโอกาสของการเข้าถึงสวัสดิการต่างๆ ในสังคม โดยเฉพาะประชากรกลุ่มใหญ่
ที่สุดของประเทศสองกลุ่มคือ เกษตรกรและแรงงานนอกระบบนั้นยังไม่ได้รับสิทธิ
ประกันสังคมอย่างครบถ้วน ไม่สามารถเข้ารับการรักษาพยาบาลฟรีในระบบเบิก
จ่ายตรง ไม่สามารถมีหลักประกันรายได้หากถูกเลิกจ้างหรือตั้งครรภ์ (ผาสุก
พงศ์ไพจิตร, 2551) ความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจและสังคมเหล่านี้นำไปสู่ความ
รู้สึกว่ามีความไม่เท่าเทียมกันในด้านสถานภาพทางสังคมของคนกลุ่มต่างๆ
ที่ชัดเจนมากขึ้น จนกระทั่งคำบางคำ เช่น “ไพร่-อำมาตย์” ซึ่งแต่เดิมไม่ได้ก่อให้
เกิดความขัดแย้งในสังคมมากเท่ากับที่เป็นอยู่ในปัจจุบันนี้ ได้ถูกนำไปเป็น
วาทกรรมเพื่อสร้างแนวร่วมทางการเมือง (สถาบันพระปกเกล้า, 2556)
การศึกษาวิจัยเพื่อวิเคราะห์ปัจจัยและแบบแผนของความไม่เท่าเทียมและ
ความเหลื่อมล้ำในการเข้าถึงโครงการช่วยเหลือภาครัฐมีความสำคัญต่อ
กระบวนการกำหนดนโยบายสาธารณะที่เกี่ยวข้องกับการให้บริการและความ
การประชุมกลุมยอยที่ 1