Page 540 - kpi17073
P. 540

การประชุมวิชาการ
                                                                                         สถาบันพระปกเกล้า ครั้งที่ 16   539


                            ในการออกแบบนโยบายการคลังท้องถิ่น มีหลักการพื้นฐานสำคัญคือ หนึ่ง การแบ่งภารกิจ
                      หรือการแบ่งรายจ่าย (expenditure assignment) หมายถึง คำถามว่า ราชการส่วนกลาง

                      เหมาะสมที่จะปฏิบัติภารกิจใด และราชการท้องถิ่นเหมาะสมกับงาน โดยคำนึงประสิทธิภาพสูงสุด
                      กล่าวสรุปโดยย่อ ราชการส่วนกลางมีความเหมาะสมที่จะรับผิดชอบการจัดบริการสาธารณะส่วน
                      รวม (collective public goods) ตัวอย่างเช่น การป้องกันประเทศ การต่างประเทศ การยุติธรรม

                      การรักษาเสถียรภาพเศรษฐกิจ การวิจัยและพัฒนา และการส่งเสริมการลงทุนเพื่อยุทธศาสตร์
                      ของประเทศ ในขณะที่  อปท. รับผิดชอบการจัดบริการสาธารณะท้องถิ่น สอง การแบ่งรายได้

                      (revenue assignment) หมายถึง อปท. ควรจะมีฐานรายได้จากภาษีหรือค่าธรรมเนียมประเภทใด
                      และ “ภาษีฐานร่วม” (shared tax) ที่เหมาะสมควรจะเป็นอย่างไร ภาษีฐานร่วมหมายถึงการที่
                      รัฐบาลและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นจัดเก็บภาษีบนสินค้าหรือบริการเดียวกัน คือ ภาษีมูลค่าเพิ่ม

                      ภาษีสรรพสามิต ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาและนิติบุคคล  ฯลฯ โดยคำนึงถึงหลักปฏิบัติด้านภาษี
                                                                           1
                      เช่น อาทิ ความพอเพียงของรายได้ (เพื่อการผลิตบริการสาธารณะ) รายได้ที่มีเสถียรภาพ

                      การจัดเก็บภาษีอิงหลักความเสมอภาค ต้นทุนของการบริหารภาษีและจัดเก็บค่าธรรมเนียม และ
                      การยอมรับของประชาชน การออกแบบภาษีหรือค่าธรรมเนียม ควรคำนึงถึงหลักผลประโยชน์
                      (benefit principle) หลักความสามารถการเสียภาษี (ability to pay principle) หลักผู้สร้าง

                      มลพิษต้องจ่าย (polluter pays principle)


                            ดังกล่าวในตอนต้นว่ามี การขับเคลื่อนนโยบายกระจายอำนาจให้ท้องถิ่นเกิดขึ้นทั่วโลกตลอด
                      สามทศวรรษที่ผ่านมา มีผลงานวิจัยเชิงประเมินผลและติดตามผลกระจายอำนาจฯ โดยองค์การ
                      ระหว่างประเทศ (ธนาคารโลก) สถาบันวิชาการต่างๆ ซึ่งอาจจะเป็นบทเรียนสำหรับสังคมไทย

                      (Boadway and Shah 2009, Shah 2006 Mochida 2008)



                      ความเหลื่อมล้ำมิติพื้นที่ และการคลังท้องถิ่น


                            ความเหลื่อมล้ำด้านเศรษฐกิจ และ ความเหลื่อมล้ำการคลังท้องถิ่น เป็นปรากฏการณ์

                      ที่สัมพันธ์ซึ่งกันและกัน ด้านหนึ่งคือการกระจุกตัวของความเจริญทางเศรษฐกิจในบางพื้นที่/หรือ
                      บางภูมิภาค วัดด้วยข้อมูลเชิงประจักษ์คือ GPP per capita  วัดความเปลี่ยนแปลงหรือแนวโน้ม

                      ในอนาคต กิจกรรมทางเศรษฐกิจมักจำแนกออกเป็น 3 สาขา คือ สาขาการเกษตร สาขา
                      อุตสาหกรรม และสาขาการบริการ ในบริบทของประเทศไทย—สัดส่วนของการผลิตภาคเกษตร
                      มีแนวโน้มลดลง ขณะนี้มูลค่าเพิ่มเกษตรคิดเป็นสัดส่วนเพียงร้อยละ 10-15 มูลค่าเพิ่ม

                      อุตสาหกรรมคิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 35-40 ส่วนที่เหลือเป็นภาคบริการ


                            กฎหมายรัฐธรรมนูญของไทย ระบุนโยบายพื้นฐานแห่งรัฐ โดยระบุให้รัฐเข้าไปแทรกแซง
                      เท่าที่จำเป็น และปล่อยให้เศรษฐกิจดำเนินการตามหลักแข่งขันเสรี ซึ่งหมายถึง การแทรกแซง

                      ของภาครัฐทำเท่าที่จำเป็น หากระบบตลาดมีการแข่งขันและทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ รัฐบาล


                          1   ประเทศจีนเป็นตัวอย่างที่กำหนดให้ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา และนิติบุคคล เป็นภาษีแบ่ง โดยแบ่งให้ท้องถิ่น  การประชุมกลุ่มย่อยที่ 6
                      ร้อยละ 40
   535   536   537   538   539   540   541   542   543   544   545