Page 177 - kpi17073
P. 177
176 การประชุมวิชาการ
สถาบันพระปกเกล้า ครั้งที่ 16
สมาชิกของอภิรัฐมนตรีสภาและในฐานะอื่น เช่น เสนาบดีในกระทรวงต่างๆ ซึ่งสามารถนำ
ประยุกต์สร้างนวัตกรรมของสภาอภิรัฐมนตรีให้เป็นสภาการแผ่นดินสูงสุดในระบอบประชาธิปไตย
ปัจจุบันให้มีอำนาจอธิปัตย์ที่สี่ คือ “อำนาจรัฎฐาภิบาล” (Sovereign Governance) ซึ่งเป็นศูนย์
รวมอำนาจขององค์กรตามรัฐธรรมนูญ 8 องค์กร โดยมีอำนาจเอกเทศที่เข้มแข็งเพียงพอในการ
ตรวจสอบถ่วงดุลการใช้อำนาจนิติบัญญัติของรัฐสภา อำนาจบริหารของรัฐบาล และอำนาจ
ตุลาการของศาลโดยปราศจากการแทรกแซงกดดันจากนักการเมืองเพื่อยับยั้งการใช้อำนาจรัฐโดย
มิชอบ (Abuse of Power) ของสามอำนาจอธิปัตย์ดั้งเดิมนี้ได้ ทั้งนี้ ที่มา โครงสร้าง และอำนาจ
หน้าที่ของสภาอภิรัฐมนตรีจะได้นำเสนอโดยละเอียดในหัวข้อที่ 4 ของบทความนี้ต่อไป
2. หลักการธรรมาธิปไตยในการสร้างดุลภาพการใช้อำนาจรัฐ
ในกรอบอำนาจจตุอธิปัตย์
นอกจากการประยุกต์อภิรัฐมนตรีสภาของพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัวเพื่อสร้าง
นวัตกรรมสภาอภิรัฐมนตรีให้มีอำนาจรัฎฐาภิบาลข้างต้นแล้ว ยังต้องนำหลักธรรมาธิปไตย
(Dhrammacracy) ของท่านพุทธทาสมาควบคุมการใช้อำนาจจตุอธิปัตย์ (อำนาจรัฎฐาภิบาล
อำนาจนิติบัญญัติ อำนาจบริหาร และอำนาจตุลาการ) ให้เกิดดุลยภาพที่ถูกต้องเหมาะสมด้วย
หลักธรรมาธิปไตยมีรากฐานมาจากหลักธรรมที่เป็นมูลฐานอำนาจอธิปไตยในพระพุทธศาสนา
ซึ่งพระพุทธองค์ได้ทรงแสดงหลักการอธิปไตยไว้ 3 ประการ (พระพรหมคุณาภรณ์, ป.อ.ปยุตโต,
2549, น. 71-72; คณะกรรมการสร้างสังคมธรรมาธิปไตย, 2552, น. 54-55) คือ
1) อัตตาธิปไตย ถือ ตนเป็นใหญ่ 2) โลกาธิปไตย ถือ โลกเป็นใหญ่ 3) ธรรมาธิปไตย ถือ
ธรรมเป็นใหญ่ ดังนั้น ธรรมาธิปไตยจึงถือหลักการ ความจริง ความถูกต้อง ความดีงาม เหตุผล
เป็นใหญ่ กระทำด้วยปรารภสิ่งที่ได้ศึกษา ตรวจสอบตามข้อเท็จจริง และความเห็นที่รับฟังอย่าง
กว้างขวางแจ้งชัด และพิจารณาอย่างดีที่สุดเต็มขีดแห่งสติปัญญา มองเห็นได้ด้วยความบริสุทธิ์ใจ
เป็นไปโดยชอบธรรม และเพื่อความดีงามเป็นประมาณอย่างสามัญในการกระทำด้วยความเคารพ
หลักการ กฎหมาย กฎระเบียบ กติกาตามหลักนิติธรรมในระบอบประชาธิปไตย ซึ่งท่านพุทธ
ทาสศึกษาสรุปไว้ว่า “ธรรมะกับการเมืองเป็นสิ่งที่แยกกันไม่ได้ แยกกันเมื่อไร การเมืองก็กลาย
เป็นเรื่องทำลายโลกขึ้นมาทันที” (พุทธทาสภิกขุ, 2549; พุทธทาสภิกขุ, 2550) โดยวิเคราะห์
เชื่อมโยงหลักธรรมาธิปไตยกับธัมมิกสังคมนิยมไว้ 3 หลักการ (กวีวงศ์, รวบรวมและเรียบเรียง,
2550; พระพรหมคุณาภรณ์, ป.อ.ปยุตโต, 2549) คือ หลักการถือประโยชน์ส่วนรวมและพึ่งพา
อาศัยกัน หลักควบคุมตนเองและเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่กัน และหลักการมีความเคารพนับถือและเมตตา
กรุณาต่อกัน
การประชุมกลุ่มย่อยที่ 1